ปาโลแซนโตส
ชื่ออื่นๆ : แอ็ดวูด, ปาโลแซนโตส, ปาโลซานโตส
ต้นกำเนิด : อเมริกาใต้
ชื่อสามัญ : Long John Ant tree, Palozantos
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Triplaris cumingiana Fisch. & C.A.Mey.ex C.A.Mey.
ชื่อวงศ์ : POLYGONACEAE
ลักษณะของปาโลแซนโตส
ต้น ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 10-20 เมตร ขนาดทรงพุ่ม 5-7 เมตร ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่ม ทรงกระบอก เปลือกต้นสีน้ำตาลอ่อน หลุดล่อนเป็นแผ่นหรือสะเก็ดขนาดใหญ่ โดยม้วนเข้าทางด้านใน

ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปขอบขนานหรือรูปรีแกมขอบขนาน กว้าง 5-10 เซนติเมตร ยาว 15-25 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ใบอ่อนมีปลอกสีชมพูอมเขียวหุ้ม ปลอกจะหลุดไปเมื่อใบคลี่ออก

ดอก ดอกเพศผู้และเพศเมียแยกกันอยู่คนละต้น ต้นเพศเมียจะออกดอกเป็นช่อยาวตามกิ่งหรือที่ปลายกิ่ง ดอกเพศเมีย กลีบดอกยาวคล้ายปีก สีแดงสด ส่วนต้นเพศผู้ออกดอกเป็นช่อสีเขียว ออกดอกช่วง กันยายน มกราคม-กุมภาพันธ์


ผล ดอกเพศเมียแม้ไม่ได้รับการผสมก็สามารถติดผลได้ ผลยังคงมีกลีบดอกสีแดงติดอยู่ ผลรูปรี ขนาด 1-2 ซม.มี 3 ปีก ผลแก่สีแดงอมชมพู ช่วงเวลาออกดอก กุมภาพันธ์-มีนาคม
การขยายพันธุ์ของปาโลแซนโตส
การเพาะเมล็ด, การปักชำ, การตอนกิ่งและทาบกิ่ง
นิยมปลูกต้นเพศเมีย เพราะให้ดอกสีแดงสด
ธาตุอาหารหลักที่ปาโลแซนโตสต้องการ
ปลูกในที่มีแสงแดด
ประโยชน์ของปาโลแซนโตส
ปลูกเป็นไม้ประดับให้ร่มเงา
สรรพคุณทางยาของปาโลแซนโตส
คุณค่าทางโภชนาการของปาโลแซนโตส
การแปรรูปของปาโลแซนโตส
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9509&SystemType=BEDO
www.forest.go.th, www.flickr.com
ปาโลแซนโตส นิยมปลูกต้นเพศเมีย เพราะให้ดอกสีแดงสด