ผักกาดฮ่องเต้
ชื่ออื่นๆ : ผักกาดฮ่องเต้, กวางตุ้งฮ่องเต้
ต้นกำเนิด : ประเทศจีน ญี่ปุ่นและเอเชียกลาง
ชื่อสามัญ : Pak Chai, Green Pakchoi
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Brassica chinensis L. var. chinensis Mansf.
ชื่อวงศ์ : BRASSICACEAE
ลักษณะของผักกาดฮ่องเต้
ต้นผักกาดฮ่องเต้ เป็นพืช 2 ฤดู แต่ปลูกเป็นพืชฤดูเดียว ก้านใบมีสีเขียวอ่อน ลักษณะแบน ส่วนโคนก้านใบจะขยายกว้างมาก และหนา เนื้อกรอบ ปลายใบมน ไม่ห่อหัว
ใบผักกาดฮ่องเต้ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปกลม แผ่นใบเรียบ หรือแบน หนา 0.5-1.0 ซม. ขอบใบเรียบ ก้านใบสีขาวปนเขียว ถึงสีเขียว ใบอ่อนนุ่ม ผิวใบเรียบและฉ่ำน้ำ เป็นมัน

ดอกผักกาดฮ่องเต้ ออกเป็นช่อกระจะ กลีบดอกกว้าง 6 มม. ยาว 12 มม. สีเหลืองอ่อน
ผลผักกาดฮ่องเต้ แตกเมื่อแห้ง กว้าง 3.5-6.5 มม. ยาว 2.5-6.0 ซม. ปลายมีจงอยเรียวยาว
เมล็ดผักกาดฮ่องเต้ 10-30 เมล็ด รูปกลม สีแดงถึงสีน้ำตาลดำ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 มม.
การขยายพันธุ์ของผักกาดฮ่องเต้
การใช้เมล็ด
การเตรียมดิน ไถดินลึกประมาณ 15 – 20 ซม. หรือขุดดินตากแดดอย่างน้อย 14 วัน เพื่อกำจัดโรคแมลงและวัชพืช คลุกปูนขาวอัตรา 0 – 100 กรัม/ตร.ม. เก็บเศษวัชพืชออกจากแปลง
การปลูก
- ใส่ปุ๋ยคอกอัตรา 1 กก ./ ตร.ม. และปุ๋ย 15 – 15 – 15 อัตรา 30 กรัม / ตร.ม. ลงในดิน พรวนดินให้ละเอียด ขึ้นแปลงกว้าง 100 – 120 ซม. ให้ร่องห่าง 50 ซม. ปรับหน้าแปลงให้เรียบ
- หากใช้วิธีหยอดเม็ดโดยตรง ให้ใช้นิ้วกดหลุมลึก 0.5 ซม. หยอดเมล็ด 5 เมล็ดต่อหลุม ระยะปลูกแล้วแต่ความ เหมาะสมของแต่ละฤดู กลบเมล็ด รดน้ำให้ชุ่ม ฉีดพ่น เซฟวิน 85 ป้องกันมดเข้าทำลาย
- หากย้ายปลูกระยะปลูก : ฤดูฝนและฤดูหนาว 25 x 20 ซม. ฤดูร้อน 20 x 20 ซม .
ข้อควรระวัง
- หากใช้วิธีการหยอดเมล็ดอย่าใช้ในปริมาณที่มากเกินไป
- ฉีดพ่นธาตุอาการเสริมให้สม่ำเสมอ
การให้น้ำ ให้น้ำแบบสปริงเกอร์ หรือระบบน้ำหยด
ช่วงเก็บเกี่ยว เก็บเกี่ยวหลังจากหยอดเมล็ด 35 วัน หรือหลังจากย้ายกล้า 20 วัน
ธาตุอาหารหลักที่ผักกาดฮ่องเต้ต้องการ
อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตอยู่ระหว่าง 20 – 25 องศาเซลเซียส แต่สามารถทนต่อสภาพอุณหภูมิสูงได้ดีกว่า กลุ่มผักกาดหัว ดังนั้นจึงสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ผักกาดฮ่องเต้สามารถเจริญเติบโตในดินแทบทุกชนิด แต่เจริญเติบโต ได้ดีที่สุดในสภาพดินร่วนปนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์ และอินทรีย์วัตถุสูง ค่าความเป็นกรด-ด่างอยู่ระหว่าง 6.0 – 6.8 ถึงแม้ผักกาดฮ่องเต้จะทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดี แต่ก็ไม่ทนทานต่อความแห้งแล้ง เนื่องจากเป็นพืชอายุสั้น และ เจริญเติบโตเร็ว ดังนั้นแปลงปลูกควรต้องมีความชื้นสูงประมาณ 60 – 80 % เป็นอย่างน้อย และต้องการแสงแดดเต็มที่ ตลอดทั้งวัน เพื่อการสังเคราะห์อาหาร
ประโยชน์ของผักกาดฮ่องเต้
- ผักที่มีวิตามินสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 6 นอกจากนั้นยังมีธาตุอาหารพวกแคลเซียม และฟอสฟอรัสสูง
- ผักกาดฮ่องเต้นิยมนำมาทำเมนูผัดกับเนื้อสัตว์ ผัดน้ำมันหอย ต้มเป็นแกงจืด หรือนำมาลวกจิ้มรับประทานกับน้ำพริก รสชาติหวานและกรอบ


สรรพคุณของผักกาดฮ่องเต้
- ป้องกันโรคกล้ามเนื้อเสื่อม
- ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
- รักษาอาการตะคริว
- ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย
- บำรุงกระดูก
- บำรุงเลือด
- บำรุงสายตา
- บำรุงผิวพรรณ
คุณค่าทางโภชนาการของผักกาดฮ่องเต้
การแปรรูปผักกาดฮ่องเต้
สามารถติดตามความรู้เเกี่ยวกับการเกษตร เพิ่มเติมได้ที่ เกษตรตำบล.คอม
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : www.rpplant.royalparkrajapruek.org, www.mueangpan.lampang.doae.go.th, www.greenery.org
ภาพประกอบ : www.flickr.com
ผักกาดฮ่องเต้ผัดน้ำมันหอย หวาน กรอบ อร่อยมาก
น่าทานมาก