พวงม่วง ชาทอง ใบ ผล มีสาร saponin และผลมีสาร narcotine alkaloids

พวงม่วง

ชื่ออื่นๆ : เครือ (แพร่) พวงม่วง, ฟองสมุทร, เทียนไข (กรุงเทพฯ) สาวบ่อลด (เชียงใหม่) เทียนทอง, เทียนพญาอินทร์

ต้นกำเนิด : ประเทศไทยพบขึ้นทั่วไป ในต่างประเทศทั่วไปในเขตร้อน

ชื่อสามัญ : เทียนหยด

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Duranta drdcta L.

ชื่อวงศ์ : VERBENACEAE

ลักษณะของพวงม่วง

ต้น ไม้พุ่มสูงประมาณ 3 เมตร แตกกิ่งก้าน กิ่งลู่ลง

ใบ  ใบ เดี่ยว ออกสลับ รูปไข่กลับ ปลายแหลมหรือมน โคนสอบ ขอบใบจัก

ดอก  ออกดอกเป็นช่อ ยอดกิ่ง ดอกมีลักษณะเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ สีม่วงชมพู

ผล ออกเป็น ช่อ ห้อยลง รูปกลมสีเขียว เมื่อสุกเป็นสีเหลือง

พวงม่วง
พวงม่วง ใบรูปไข่กลับ ปลายแหลม
ดอกพวงม่วง
ดอกพวงม่วง ดอกสีม่วงอ่อน

การขยายพันธุ์ของพวงม่วง

การเพาะเมล็ด ตอนหรือปักชำกิ่ง

ธาตุอาหารหลักที่พวงม่วงต้องการ

ประโยชน์ของพวงม่วง

นิยมปลูกเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ ใช้ตกแต่งสวน หรือบริเวณที่ต้องการแนวเป็นรั้ว ใช้ปลูกร่วมกับไม้ชนิดอื่น ๆ ทำให้สนามหรือสวนดูสวยงาม เป็นสัดส่วน และมักนิยมปลูกเป็นไม้ถุง จำหน่ายได้ง่าย เป็นพืชที่ต้องการแสงมาก ชอบน้ำหรือความชื้นสูง

ผลพวงม่วง
ผลพวงม่วง ผลกลม ออกเป็นช่อ

สรรพคุณทางยาของพวงม่วง

  • ใบสดใช้ห้ามเลือด แก้ฝีฝักบัว แก้อักเสบบวมเป็นหนอง
  • เมล็ดแห้งใช้ ชงน้ำรับประทานแก้ไข้มาลาเรีย แก้ช้ำใน

ส่วนที่เป็นพิษ : ใบ ผล

สารพิษ : ใบ ผล มีสาร saponin และผลมีสาร narcotine alkaloids

การเกิดพิษ : รับประทานผลอาจตายได้ จะทำให้อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ มีไข้ ตาพร่า กระหายน้ำมาก ถ้าได้รับพิษมาก เม็ดเลือดแดงแตกได้ พืชนี้เป็นพิษต่อสัตว์เลือดเย็นด้วย

การรักษา : ส่งโรงพยาบาล ให้กินนม หรือไข่ขาว เกลือบกระเพาะ เพื่อลดการดูดซึมของสารพิษ ล้างท้อง ถ้าเสียน้ำมาก ต้องให้น้ำเกลือทางเส้นเลือด

คุณค่าทางโภชนาการของพวงม่วง

การแปรรูปของพวงม่วง

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9468&SystemType=BEDO
www.phayamengraischool.ac.th
www.rspg.or.th
www.flickr.com

Add a Comment