มะม่วงพิมเสนมัน ผลดิบรสหวานมันปนเปรี้ยวเล็กน้อย ผลสุกรสชาติหวานมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว

มะม่วงพิมเสนมัน

ชื่ออื่นๆ : มะม่วงกะเสน (อีสาน) พิมเสนมันทะวาย, มะม่วงบางขุนศรี

ต้นกำเนิด : อินเดีย พม่า

ชื่อสามัญ : Phimsen Man mango

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mangifera indica L.

ชื่อวงศ์ : ANACARDIACEAE

ลักษณะของมะม่วงพิมเสนมัน

ต้น เป็นไม้ยืนต้น สูงประมาณ 15-20 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาเยอะ

ใบ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับ เป็นคู่ๆหนาแน่นบริเวณปลายยอด ใบเป็นรูปใบหอก ปลายใบแหลม โคนใบมน เนื้อใบค่อนข้างหนา ใบมีขนาดใหญ่กว่าใบมะม่วงทั่วไป หน้าใบสีเขียวสดเป็นมัน หลังใบสีเขียวหม่น ใบดกให้ร่มเงาดี

ต้นมะม่วงพิมเสน
ต้นมะม่วงพิมเสน ไม้ยืนต้นสูง ใบเป็นใบเดี่ยว เป็นรูปใบหอก ปลายใบแหลม

ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก ดอกเป็นสีเหลืองอ่อน หรือสีเหลืองนวล มีกลิ่นหอมอ่อนๆ

ผล เป็นรูปกลมรี ยาว  ปลายผลงอนย้อย หรืองอนแหลม ผลมีขนาดใหญ่ เมล็ดลีบ ให้เนื้อเยอะ  คล้ายผล มะม่วงมหาชนก แต่ปลายผลจะงอนน้อยกว่า  และมีความหนาของผลเยอะกว่า ผลดิบสีเขียว รสหวานมันปนเปรี้ยวเล็กน้อย กรอบไม่แข็ง ผลสุก เนื้อจะแน่นเหนียวไม่เละแม้สุกงอม ไม่มีเสี้ยน เมล็ดลีบบางและเล็ก รสชาติหวานมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ให้ผลผลิตปีละ 2 ครั้ง

ผลมะม่วงพิมเสน
ผลมะม่วงพิมเสน ผลกลมรี ยาว  ปลายผลงอนย้อย หรืองอนแหลม

การขยายพันธุ์ของมะม่วงพิมเสนมัน

เมล็ด, ตอนกิ่ง และทาบกิ่ง เสียบยอด

  1. การเตรียมพื้นที่และการเตรียมดิน
    1.1 แบบสภาพยกร่อง (ที่ลุ่ม) โดยสันร่องกว้าง 4 – 6 เมตร ท้องร่องกว้าง 1 เมตร ลึก 1.5 เมตร แล้วตากดินและพื้นดินปรับ pH
    1.2 แบบสภาพไร่ (ที่ดอน) โดยไถดะปรับพื้นที่และไถพรวนปรับค่า pH ดิน
  2. ขุดหลุมและการปลูกและพันธุ์มะม่วง
    2.1 ระยะปลูกของมะม่วง ขึ้นอยู่กับขนาดสภาพุ่มของมะม่วงแต่ละพันธุ์ และตามต้องการของผู้ปลูก โดยทั่วไปจะใช้ระยะตั้งแต่ 6×6 เมตร ,8X8 เมตร, 10-12×10-12 เมตร โดยจะขุดหลุมขนาด 50x50x50 เซนติเมตร หรือ ขนาด 1x1x1เมตร
    2.2 การปลูก ควรปลูกมะม่วงช่วงต้นฤดูฝน ถ้ามีระบบชลประทานปลูกได้ทั้งปี ความต้องการ โดยใช้ดินผสมกับวัสดุปลูก ได้แก่ ปุ๋ยหมัก 5-10 กิโลกรัม หินฟอสเฟต 0.5 กิโลกรัม/หลุม ปุ๋ยเคมี 15-15-15 อัตรา 200-300 กรัม/หลุม แล้วใส่ในหลุมปลูก แล้วนำต้นพันธุ์มะม่วงมาปลูกตรงกลางหลุมแล้วปักไม้ยึดต้น ผูกเชือกเพื่อป้องกันลมโยก แล้วคลุมโคนด้วยฟางข้าวหรือหญ้าแห้งแล้วรดน้ำให้ชุ่มต่อเนื่อง โดยใช้ต้นกิ่งพันธุ์สมบูรณ์ ความสูง 50-70 เซนติเมตร
  3. การให้น้ำ
     3.1 หลังปลูก ถ้าฝนไม่ตกควรรดน้ำทุกวัน ช่วง 7 วันแรก และ 3- 4 วัน/ครั้ง หรือ 10 วัน/ครั้ง จนต้นมะม่วงเจริญเติบโตได้ตามอายุจนถึงออกดอกติดผลต่อไป
    3.2 ปริมาณน้ำที่มะม่วงต้องการใช้
    3.3 ช่วงบำรุงต้น ความต้องการน้ำประมาณ 0.5 เท่าของอัตราการระเหยของน้ำ เช่น ถ้าทรงพุ่มประมาณ 3 เมตร ต้องให้น้ำ 22.5 ลิตร/ต้น/วัน
    3.4 ช่วงหลังตัดผล ต้องการน้ำมากที่สุดประมาณ 0.7-0.8 เท่า ของอัตราการระเหยของน้ำ เช่น ถ้าทรงพุ่มประมาณ 5 เมตร ต้องใช้น้ำ 87.5 – 100 ลิตร/ต้น/วัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงการขยายผล-พัฒนา คุณภาพผลและความต้องการน้ำจะลดลงในช่วงใกล้ระยะเก็บเกี่ยว
  4. การใส่ปุ๋ย
    4.1 ปุ๋ยอินทรีย์ (ปุ๋ยคอก,ปุ๋ยหมัก,ปุ๋ยพืชสด) ใส่เป็นส่วนผสมรองก้นหลุมปลูก 5-10 กิโลกรัม/ ต้น โดยใส่ร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 200-300 กรัม/ต้น และหินฟอสเฟต 0.5 กิโลกรัม/ต้น
    4.2 ปุ๋ยเคมี (สำหรับมะม่วงที่ยังไม่ให้ผล) ใส่หลังจากปลูกมะม่วงอายุ 3-4 เดือน ใส่สูตร 15-15- 15 หรือ 16-16-16 อัตรา 2.50 กรัม/ต้น หลังจากนั้น ใส่ทุก 4 เดือน เมื่อต้นมะม่วงอายุ 1 ปี ให้ใส่ 500 กรัม/ ต้น และเมื่ออายุ 2 ปี ใส่ต้นละ 1 กิโลกรัม/ต้น หลังจากนั้นใส่ปุ๋ยอัตราจำนวนกิโลกรัม/ต้น ตามอายุต้น โดยทั่งไปจะใส่ในอัตราครึ่งหนึ่งของอายุต้น
    * ปุ๋ยเคมี (สำหรับมะม่วงที่ให้ผลแล้ว) หลังจากการตัดแต่งกิ่ง ทำความสะอาดโคนต้นใส่ปุ๋ย สูตร 15-15-15 ,16-16-16 (บำรุงต้น) ,สูตร 12-24-12 หรือ 8-24-24 (เพื่อสร้างตาดอก) สูตร 14-14-14 หรือ 16-16-16 (เพื่อขยายผล) และสูตร 13-13-21 (เพื่อพัฒนาคุณภาพผล)ตามลำดับ

ธาตุอาหารหลักที่มะม่วงพิมเสนมันต้องการ

ประโยชน์ของมะม่วงพิมเสนมัน

  • ผลใช้รับประทานทั้งผลดิบและผลสุก  ผลดิบมีรสเปรี้ยว เมื่อแก่จัดจะมีรสหวาน หอม
  • เนื้อไม้ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์
  • ยอดอ่อน ผลอ่อน นำมาประกอบอาหารเเทนผัก
  • ใช้เป็นยาสมุนไพร เช่นผลมะม่วงดิบมีวิตามินซีสูง แก้เลือดออกตามไร้ฟัน เป็นต้น
  • มะม่วงพิมเสนมันเป็นพันธุ์โบราณ ที่นิยมปลูกเฉพาะถิ่นในแถบภาคกลางมาช้านาน ผลดิบจะมีรสชาติมันปนเปรี้ยวนิดๆ   ผลสุกเนื้อมีสีเหลืองไม่เละ รสชาติหวานแหลมมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รับประทานแล้วหวานเย็นชื่นใจ “มะม่วงพิมเสนมัน” จะติดผลได้ถึงปีละ 2 ครั้ง ติดผลดกมาก จึงนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายอยู่ในปัจจุบัน
มะม่วงพิมเสนสุก
มะม่วงพิมเสนสุก เนื้อจะแน่นเหนียวไม่เละ ไม่มีเสี้ยน

สรรพคุณทางยาของมะม่วงพิมเสนมัน

คุณค่าทางโภชนาการของมะม่วงพิมเสนมัน

มะม่วงพิมเสนมันดิบ ในปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 87 กิโลแคลอรี ประกอบไปด้วย

  • น้ำ  77.5 กรัม
  • โปรตีน  1.0 กรัม
  •  ไขมัน  0.50 กรัม
  •  คาร์โบไฮเดรต  18.90  กรัม
  •  กากใยอาหาร  1.8  กรัม
  •  เถ้า 0.3 กรัม
  • แคลเซียม   25  มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส  14  มิลลิกรัม
  • เบต้า-แคโรทีน  148  ไมโครกรัม
  • วิตามินเอ  12  ไมโครกรัม
  • ไทอะมีน  0.04  มิลลิกรัม
  • ไรโบฟลาวิน  0.03  มิลลิกรัม
  • ไนอะซิน  0.60  มิลลิกรัม
  • วิตามินซี  31  ไมโครกรัม

การแปรรูปของมะม่วงพิมเสนมัน

นิยมนำมาแปรรูป แก่จัดมีรสมันอมเปรี้ยว นำมาแปรรูปเป็นมะม่วงดอง มะม่วงกวน มะม่วงเเช่อิ่ม เป็นต้น

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11207&SystemType=BEDO
www.gotoknow.org, www.opsmoac.go.th, https://thaifcd.anamai.moph.go.th

One Comment

Add a Comment