วิธีแปรรูปอะโวคาโด การทำน้ำสลัดเจ วิธีทำน้ำสลัดอะโวคาโด

อะโวคา

อะโวคาโด
อะโวคาโด ผลกลมรีหรือทรงลูกแพร์ มีทั้งพันธุ์เปลือกหนาและเปลือกบาง

อะโวคาโด  avocado เป็นผลไม้ที่มีเนื้อมันเป็นเนย ลักษณะของผลอะโวคาโดจะมีรูปร่างคล้ายสาลี่หรือรูปไข่ เป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมมากในแถบยุโรปและอเมริกา  คนมักหาซื้อมารับประทานกัน เพราะมีสารอาหารต่างๆ วิตามิน แร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก

อะโวคาโด ยังเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุ เป็นแหล่งของ HDL-cholesterol ช่วยลด ระดับ LDL-cholesterol ช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในเส้นเลือด ช่วยลดอัตราเสี่ยงของโรคหัวใจและ หลอดเลือด

วันนี้เกษตรตำบลมีวิธีทำน้ำสลัดอะโวคาโด น้ำสลัดเจ เป็นเมนูที่ทำจากอะโวคาโดมาฝากค่ะ จะมีส่วนผสมและวิธีทำอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

ส่วนผสม

  1. อะโวคาโด     1 ผล
  2.  นมถั่วเหลือง 1 กล่อง (250 ml)
  3.  เกลือป่น       ¼ ช้อนชา
  4.  น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  5. เครื่องปั่นน้ำผลไม้

วิธีทำน้ำสลัดอะโวคาโด

  1. ผ่าซีกอะโวคาโดตามยาว แล้วใช้ช้อนขูดตักเนื้อลงในโถเครื่องปั่น
  2. โรยเกลือป่น และน้ำตาลทรายลงไปในโถปั่นให้กระจายตามเนื้ออะโวคาโด
  3. ใส่นมถั่วเหลืองลงในโถปั่น
  4. ปั่นส่วนผสมทั้งหมดจนเนื้อเนียนละเอียดเป็นครีม
  5. ตักใส่ภาชนะ พร้อมเทราดด้วยอะโวคาโดครีมพร้อมเสิร์ฟ

** หากอะโวคาโดครีมเหลือ อาจเติมนมถั่วเหลืองอีกเล็กน้อย หรือน้ำเปล่าแล้วปั่นต่อจะได้ smoothie ที่มีความหนืดลดลงและเนื้อเนียน แล้วเท smoothie ที่ได้ลงในแก้ว อาจโรยด้วยลูกเกด และน้ำตาลทรายแดง เพื่อเพิ่มรสชาติและสีสันให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น **

น้ำสลัดครีมอะโวคาโด
น้ำสลัดครีมอะโวคาโด ทานคู่กับผลไม้สด

สารอาหารในการทานอะโวคาโด

อะโวคาโดมีพลังงานสูง ปริมาณ 100 กรัม (ประมาณ  ½  ผล) มีพลังงาน 160 กิโลแคลอรี 

อะโวคาโด 100 กรัม ประกอบด้วย

  • โปรตีน 2.23 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต 7.82 กรัม
  • ไขมัน 10.1 กรัม
  • แคลเซียม 10 มิลลิกรัม
  • แมกนีเซียม 24 มิลลิกรัม
  • โพแทสเซียม 351 มิลลกรัม
  • วิตามินบี 2 0.053 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี 17.4 มิลลิกรัม
  • วิตามินเอ 140 ไมโครกรัม

** แนะนำให้กินไม่เกินครึ่งผลต่อครั้ง วันละไม่เกิน 1 ผล **

สามารถติดตามความรู้เเกี่ยวกับการเกษตร เพิ่มเติมได้ที่ เกษตรตำบล.คอม

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : https://w2.med.cmu.ac.th, https://nutrition2.anamai.moph.go.th
ภาพประกอบ : 
www.flickr.com

One Comment

Add a Comment