หางหมาจอก
ชื่ออื่นๆ : หญ้าหางแมว (สตูล) หางกระรอก (กรุงเทพมหานคร) หญ้าตะขาบ (ราชบุรี) เสลดพังพอนกะเหรี่ยง (กาญจนบุรี)
ต้นกำเนิด :
ชื่อสามัญ : หางกระรอก หญ้าตะขาบ เสลดพังพอนกะเหรี่ยง ขี้หนอน หางหมา หางอ้น
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Uraria crinita (L.) Desv. ex DC.
ชื่อวงศ์ : Leguminosae-Papilionoideae
ลักษณะของหางหมาจอก
ต้น ไม้พุ่ม ลำต้นตั้งตรง สูง 0.5-1.5 เมตร
ใบ ใบประกอบแบบขนนก ปลายคี่ เรียงสลับ ใบย่อย 3-11 ใบ รูปวงรีแกมขอบขนาน แกมใบหอก กว้าง 3.5 เซนติเมตร ยาว 8-15 เซนติเมตร แผ่นใบเหนียว ผิวใบมัน ปลายใบแหลม ฐานใบมน ขอบใบเรียบ
ดอก ดอกช่อกระจะ ออกที่ซอกใบหรือปลายกิ่ง ดอกย่อยจำนวนมากเรียงตัวอัดกันแน่นเป็นแท่ง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 เซนติเมตร ยาว 15-20 เซนติเมตร กลีบดอกมี 5 กลีบ สีขาวปนม่วง รูปดอกถั่ว สีม่วงแกมชมพู ก้านดอกย่อยมีขนยาว ปลายขนงอเป็นตะขอ กลีบเลี้ยง 5 กลีบ เกสรเพศผู้มี 10 อัน ค่อนข้างแข็ง
ผล ผลเป็นฝักรูปขอบขนาน แบน คอดเป็นข้อๆ พับงอไปมา เมื่อสุกสีดำ ไม่แตก

การขยายพันธุ์ของหางหมาจอก
ใช้เมล็ด
ธาตุอาหารหลักที่หางหมาจอกต้องการ
ประโยชน์ของหางหมาจอก
- ใบและช่อดอกของหางหมาจอกจะนำไปใส่ในไหปลาร้า ให้หนอนแมลงวันเกาะขึ้นมาแล้วเคาะทิ้งไป
- เป็นพืชสมุนไพร ทางภาคเหนือใช้ทั้งต้นต้มรวมกับตัวยาอื่นแก้ปวดเมื่อย รากต้มผสมกับตัวยาอื่น แก้อาการทางประสาท ฝนกับน้ำปูนใสใช้รักษาฝี

สรรพคุณทางยาของหางหมาจอก
- ราก ผสมรากแกลหนู รากกาสามปีกใหญ่ รากกาสามปีกเล็ก และรากโมกมัน ต้มน้ำดื่ม แก้อาการทางประสาท ฝนน้ำปูนใสทา รักษาฝี
- ยาพื้นบ้านล้านนา ใช้ ทั้งต้น ผสมหัวยาข้าวเย็น ต้มน้ำดื่ม แก้ปวดเมื่อย
- ตำรายาไทย ใช้ ราก รสจืด ฝนกับสุรา หรือน้ำมะนาวรับประทาน และทาแก้พิษงู พิษขบกัด
ใบและช่อดอกนำไปใส่ในไหปลาร้า ให้หนอนแมลงวันเกาะขึ้นมาแล้วเคาะทิ้ง
คุณค่าทางโภชนาการของหางหมาจอก
การแปรรูปของหางหมาจอก
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=12151&SystemType=BEDO
https://th.wikipedia.org
https://www.flickr.com