โมกใหญ่
ชื่ออื่นๆ : โมกมัน, โมกมันหลวง, โมกหลวง, โมกมันน้อย, โมกเขา, โมกทุ่งโมกใหญ่, พุด, ยางพุด, พุทธรักษา, หนามเนื้อ
ต้นกำเนิด : อินเดีย เนปาล บังกลาเทศ พม่า จีน และภูมิภาคอินโดจีน ในไทยพบทุกภาค
ชื่อสามัญ :
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Holarrhena pubescens Wall. ex G.Don
ชื่อวงศ์ : APOCYNACEAE
ลักษณะของโมกใหญ่
ต้น : ไม้ต้นขนาดเล็กถึงกลาง สูง 5-8 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดรูปไข่ เปลือกสีเทาหรือสีน้ำตาลแตกเป็นสะเก็ด
ใบ : เดี่ยว เรียงตรงข้าม ใบรูปมนกว้างหรือรูปไข่แกมรูปขอบขนาน กว้าง 5-12 ซม. ยาว 8-24 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบมนหรือแหลม ใบอ่อนมีขนสีเทาอมเหลืองพอแก่จะหลุดร่วงไป ขอบใบเรียบ เส้นแขนงใบข้างละ 9-13 เส้น ก้านใบยาว 2-6 มม.
ดอก : สีขาว ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกที่ปลายกิ่ง ช่อดอกยาว 4-14 ซม. กว้าง 7-12 ซม. ทุกส่วนเกลี้ยงหรือมีขนสั้นนุ่ม กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเป็นวงปลายแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปเข็มปลายแยกเป็น 5 แฉก ดอกบานเต็มที่กว้าง 1.5-2 ซม. มีกลิ่นหอม
ผล : เป็นฝักแห้งแตก ฝักยาวคู่รูปทรงกระบอก กว้าง 5-9 มม. ยาว 20-35 ซม. มีช่องระบายอากาศทั่วไป เมล็ด ยาว 1.4 ซม. มีขนอ่อนสีน้ำตาลยาวติดอยู่เป็นกระจุก

การขยายพันธุ์ของโมกใหญ่
ใช้เมล็ด/เพาะเมล็ด หรือปักชำ
ธาตุอาหารหลักที่โมกใหญ่ต้องการ
ประโยชน์ของโมกใหญ่
ต้นขนาดกลางเหมาะกับการปลูกประดับสวน ดอกหอมมีขนาดใหญ่มองเห็นชัดเจน
สรรพคุณทางยาของโมกใหญ่
- เปลือก รักษาโรคบิด
- เมล็ด เป็นยาสมานท้อง
คุณค่าทางโภชนาการของโมกใหญ่
การแปรรูปของโมกใหญ่
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=10331&SystemType=BEDO
www.flickr.com