วิธีแก้ง่วงในที่ทำงานโดยไม่ต้องพึ่งกาแฟ
โดยในช่วงเวลาทำงานคุณเองก็จะเริ่มรู้สึกได้ว่าเกิดอาการง่วงนอนในยามบ่าย ทำให้ต้องหาเครื่องดื่มอย่างกาแฟ เครื่องดื่มยอดนิยมมารับประทานกันซะเป็นส่วนใหญ่ หรือหาของอร่อยๆมารับประทาน เพื่อจะคลายความง่วงให้กับตนเอง จนบางครั้งก็ทนไม่ไหว จะต้องมีการแอบนอนหลับกันเลยก็ว่าได้ วันนี้เรามีวิธีที่ช่วยให้หายง่วงมาฝากกัน 6 วิธี จะมีอะไรกันบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
1. เดินไปเดินมา
จากการศึกษา พบว่า การเดินเป็นเวลา 20 นาที สามารถเพิ่มระดับพลังงานในร่างกายของคุณให้สูงขึ้นได้และลดอาการอ่อนล้า ให้หมดไป การออกกำลังกายประเภทที่มีแรงกระแทกน้อยจะทำให้คุณเกิดความรู้สึกอ่อนล้า น้อยกว่าการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกมาก ดังนั้น คุณจึงไม่จำเป็นต้องเดินแบบเอาเป็นเอาตายเพื่อให้เห็นผลอย่างชัดเจนทันที นอกจากนี้ จากการศึกษายังพบด้วยว่าผู้ที่ได้ออกกำลังกายจะสามารถนอนหลับได้ดีกว่าผู้ ที่ไม่ออกกำลังกาย (และจึงไม่ง่วงนอนในที่ทำงานนั่นเอง)
วิธีการ: เพียง แค่คุณสวมรองเท้าที่ให้ความรู้สึกสบายๆ สักคู่และเดินด้วยระยะก้าวปานกลางเท่านั้นเอง ซึ่งการเดินเช่นนี้เพียง 20 นาทีก็สามารถช่วยเพิ่มระดับพลังงานในร่างกายของคุณได้แล้ว
2. ใช้หูให้มากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวไว้ว่า การฟังเพลงในขณะที่คุณทำงานอยู่นั้นจะสามารถช่วยทำให้คุณรู้สึกตื่นตัวและ ช่วยเพิ่มสมาธิให้แก่คุณได้อีกด้วย
3. พักสายตาบ้าง
ถ้า หากว่าคุณไม่ละสายตาจากคอมพิวเตอร์บ้างเลย ในที่สุด คุณก็อาจต้องประสบกับปัญหาปวดศีรษะ ล้าและแสบตาได้ ดังนั้น คุณควรให้สายตาของตัวเองได้หยุดพักในเวลาที่เหมาะสมเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ บ้าง ซึ่งแน่นอนว่าจะทำตาของคุณรู้สึกสบาย
4. ยืดเส้นยืดสาย
การ นั่งติดอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันจะทำให้คุณปวดคอได้ ซึ่งอาการต่อมาก็คือคุณจะรู้สึกว่าคอแข็งและขยับคอลำบาก ดังนั้น การยืดเส้นยืดสายร่างกายเสียบ้างจะช่วยทำให้ร่างกายของคุณไม่เกิดความเหน็ด เหนือยหรืออ่อนล้ามาก
5. เพิ่มพลังให้แก่ตัวเองด้วยการกินขนมขบเคี้ยวที่มีประโยชน์
การ รับประทานอาหารในมื้อใหญ่สามารถทำให้คุณง่วงนอนได้ ดังนั้น ให้คุณลองรับประทานอาหารมื้อหลักในปริมาณอาหารที่น้อยลง และตลอดวันให้คุณรับประทานขนมคบเคี้ยวที่มีประโยชน์มากขึ้นเพื่อให้เกิด พลังงานในร่างกายอย่างเพียงพอ
6. เมื่อทุกอย่างใช้ไม่ได้ผล
ให้คุณใช้น้ำเย็นในการแก้ง่วง คงไม่มีอะไรที่จะปลุกคุณให้ตื่นได้ดีไปกว่า การใช้น้ำเย็นล้างหน้า และดื่มน้ำเย็นอีกแล้ว และเมื่อคุณได้ดื่มน้ำจนอิ่มแล้ว คุณก็คงไม่ค่อยที่จะอยากดื่มกาแฟอีกแล้ว
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bangsrimuang.go.th
https://www.flickr.com
One Comment