ลิ้นกระบือ
ชื่ออื่นๆ : กำลังกระบือ, ลิ้นกระบือ (ภาคกลาง) ใบท้องแดง (จันทบุรี)
ต้นกำเนิด :
ชื่อสามัญ : กระบือเจ็ดตัว
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Excoecaria cochinchinensis Lour. var.cochinchinensis
ชื่อวงศ์ : EUPHORBIACEAE
ลักษณะของลิ้นกระบือ
ต้น ไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงได้ถึง 1.5 ม. ลำต้นตั้งตรงเองได้ เปลือกลำต้นสีเขียวอมเหลือง ผิวเรียบ ไม่มียาง แตกกิ่งก้านสาขามาก
ใบ ใบเดี่ยว มีทั้งเรียงตรงข้ามและเรียงสลับ รูปรี รูปไข่ หรือรูปไข่กลับ กว้าง 1.5-4 ซม. ยาว 4-12 ซม. ปลายแหลม โคนสอบ ขอบจักฟันเลื่อย แผ่นใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน ด้านล่างสีม่วงแดงหรือม่วงน้ำตาล เส้นแขนงใบข้างละ 7-12 เส้น ก้านใบยาว 0.5-1.5 ซม.
ดอก ดอกแยกเพศ อยู่ต่างต้น ออกตามง่ามใบ ข้างใบ หรือปลายยอด ยาว 1-2 ซม. ช่อดอกเพศผู้มีดอกเล็กๆ จำนวนมาก โคนก้านดอกมีใบประดับเล็กๆ ก้านดอกสั้น กลีบเลี้ยง 3 กลีบ เล็กมาก เกสรเพศผู้เล็กมาก มี 3 อัน ช่อดอกเพศเมียสั้นกว่าช่อดอกเพศผู้และมีดอกเล็กๆ 3-6 ดอก ก้านดอกยาว 2-5 มม. โคนก้านดอกมีใบประดับเล็กๆ และมีต่อมเล็กๆ สีเหลือง กลีบเลี้ยงเล็ก มี 3 กลีบ รูปไข่ รังไข่เล็ก สีเขียวอมชมพู มี 3 ช่อง ก้านเกสรเพศเมียมี 3 อัน
ผล ผลเล็ก ค่อนข้างกลม มี 3 พู

การขยายพันธุ์ของลิ้นกระบือ
ใช้เมล็ด
ธาตุอาหารหลักลิ้นกระบือต้องการ
ประโยชน์ของลิ้นกระบือ
สรรพคุณทางยาของลิ้นกระบือ
- ใบ – ขับน้ำคาวปลาหลังคลอด เป็นยาขับเลือดเน่าสำหรับสตรีในเรือนไฟ
- ยางจากต้น – เป็นพิษ ใช้เบื่อปลา
วิธีใช้ : นำใบมาตำกับสุรา คั้นเอาน้ำรับประทาน

คุณค่าทางโภชนาการของลิ้นกระบือ
การแปรรูปของลิ้นกระบือ
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11656&SystemType=BEDO
www.flickr.com