ถั่วแปบ
ชื่ออื่นๆ : ถั่วมะเปกี, มะแปบ, ถั่วแล้ง หรือถั่วหนัง (ภาคเหนือ)
ต้นกำเนิด : แถบร้อนของทวีปเอเชีย รวมทั้งในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของไทย
ชื่อสามัญ :
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dolichos lablab L.
ชื่อวงศ์ : Leguminosae
ลักษณะของถั่วแปบ
เป็นพืชล้มลุกเลื้อยพันซึ่งมีอายุได้หลายปี ลำต้นบิด มีขนเล็กน้อย สูงประมาณ 1.5 เมตร – 3 เมตร บางพันธ์อาจสูงได้ถึงประมาณ 9 เมตร ลักษณะของใบ เป็นใบประกอบ 3 ใบ คล้ายรูปไข่ปลายเรียวแหลม ดอกมี 2 ชนิดคือ ชนิดดอกสีขาว และชนิดดอกสีม่วง เมล็ดอ่อนจะมีสีเขียว เมื่อแก่จะมีสีน้ำตาลเข้ม หรือเป็นสีดำเมื่อแก่จัด

การขยายพันธุ์ของถั่วแปบ
ใช้เมล็ด
ธาตุอาหารหลักที่ถั่วแปบต้องการ
ประโยชน์ของถั่วแปบ
- ฝักอ่อน เมล็ด ใช้ประกอบอาหาร เช่นแกงส้ม ผักลวกจิ้มกับน้ำพริก
- ใช้เป็นสมุนไพรบำรุงร่างกาย แก้อ่อนเพลีย บำรุงธาตุ แก้ไข้ แก้อาการแพ้
- ปลูกเป็นพืชอาหารสัตว์
- ปลูกเป็นพืชสำหรับทำปุ๋ย หรือเป็นพืชเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ

สรรพคุณทางยาของถั่วแปบ
- ฝัก ช่วยแก้อาการไข้และอ่อนเพลีย รวมทั้งบำรุงกำลังให้แก่ร่างกาย ให้รสหวานมัน
- เมล็ด ช่วยในการบำรุงร่างกายให้แข็งแรง รวมทั้งช่วยแก้ไข้ แก้โรคตา และแก้เสมหะ ให้รสหวานมัน
คุณค่าทางโภชนาการของถั่วแปบ
ถั่วแปบเป็นพืชตระกูลถั่วที่ให้สารอาหารทางโปรตีนสูง คาร์โบไฮเดรต (กลูโคส กาแลกโทส และกลูตามิเนส) ไขมันชนิดฟอสฟาไทด์ แร่ธาตุ ได้แก่ แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส สังกะสี รวมไปถึงวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี กรดแพนโรทีนิค
ถั่วแปบยังพบว่ามีสาร ไฟโตฮีแมคกลูตินิน (Phytohemagglutinine) ที่ช่วยในการเร่งการผลิตเม็ดเลือดขาวของร่างกาย ลำต้นของถั่วแปบยังพบว่ามีสารแคโรทีน หรือบีตา-แคโรทีน และสาร ลูเทียน (Lutein) ในส่วนของรากถั่วแปบมีเอนไซม์ชนิดหนึ่ง และกรดอะมิโนแยกอิสระอีกหลายชนิด จึงเหมาะแก่การปลูกถั่วแปบเพื่อบำรุงรักษาดิน
การแปรรูปของถั่วแปบ
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11397&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com