โพกริ่ง
ชื่ออื่นๆ : โพกริ่ง, โกงพะเหม่า (สุราษฎร์ธานี) โปง (กระบี่)
ต้นกำเนิด : ภาคใต้ของไทย ต่างประเทศพบที่มาดาร์กัสการ์ ศรีลังกา อินเดีย พม่า ภูมิภาคมาเลเซียจนถึงโพลีนีเซีย ขึ้นตามป่าชายหาดบนหาดทรายของเกาะและฝั่งทะเลด้านทะเลอันดามัน
ชื่อสามัญ :
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hernandia nymphaeifolia (C.Presl) Kubitzki
ชื่อวงศ์ : HERNANDIACEAE
ลักษณะของโพกริ่ง
ต้น ไม้ต้นขนาดกลาง สูง 10-20 เมตร ลำต้นแตกกิ่งต่ำ เปลือกสีเทาเป็นมัน

ใบ ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ รูปไข่กว้างแกมรูปสามเหลี่ยม ปลายใบแหลม โคนใบกลม ก้านใบยาว 6-20 เซนติเมตร ติดเลยโคนใบเข้ามาในแผ่นใบเล็กน้อย

ดอก ดอกออกเป็นช่อ แตกแขนงสั้นๆ ตามซอกโคนใบใกล้ยอดหรือที่ยอด ดอกแยกเพศอยู่ในช่อเดียวกัน ออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 ดอก ตรงกลางเป็นดอกเพศเมียขนาบด้วยดอกเพศผู้ ดอกเพศเมียมีกลีบดอกสีขาว 4 กลีบ มีฐานรองรบรับไข่เป็นรูปถ้วยและมีขนาดโตขึ้นรองรับผล ออกดอกและผลเดือน กันยายน -พฤศจิกายน

ผล ผลกลม หรือ รี กว้างประมาณ 20 มม. ยาวประมาณ 25 มม. มีใบประดับสีเขียวใสติดอยู่ เมื่อแก่จะแตกที่ปลาย เมล็ดกลมมีเนื้อนุ่มคล้ายฟองน้ำหุ้ม

การขยายพันธุ์ของโพกริ่ง
การใช้เมล็ด
ธาตุอาหารหลักที่โพกริ่งต้องการ
ประโยชน์ของโพกริ่ง
พืชที่หายาก (ในประเทศไทย) พบตามป่าชายหาดที่เป็นหาดทรายตามเกาะและฝั่งทะเลที่ไม่ถูกรบกวน ปัจจุบันเหลือน้อยมากเนื่องจากถิ่นกำเนิดถูกทำลายหรือเปลี่ยนสภาพ
สรรพคุณทางยาของโพกริ่ง
- ราก ใช้เคี้ยวกินแก้พิษบางชนิด เช่น พิษจากการกินปู หรือ ปลาที่มีพิษ
- ต้น ยางที่ใช้เป็นยาถูผิวหนังเพื่อกำจัดขน น้ำต้มเปลือกกินเป็นยาถ่าย
- ใบ ใบอ่อนกินเป็นยาถ่าย
- เมล็ด กินเป็นยาถ่าย แต่น้ำมันที่สกัดได้จากเมล็ดเป็นพิษ
คุณค่าทางโภชนาการของโพกริ่ง
การแปรรูปของโพกริ่ง
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : www.rspg.or.th, www.คลังสมุนไพร.com
ภาพประกอบ : www.flickr.com
โพกริ่ง พืชหายาก ในประเทศไทย
โพกริ่ง ไม้ต้นขนาดกลาง ลำต้นเปลือกสีเทาเป็นมัน