ลาน
ชื่ออื่นๆ : ลาน (ทั่วไป) โกงกางใบใหญ่ (ไทย) โกงกาง (นครปฐม) โกงกอน (เพชรบุรี-ชุมพร) กางเกง (ชุมพร) พังกาใหญ่ (ใต้ )
ต้นกำเนิด :
ชื่อสามัญ : Talipot palm, Fan Plam, Lontar Palm
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Corypha umbraculifera Linn.
ชื่อวงศ์ : PALMAE
ลักษณะของลาน
ต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง 60-90 เซนติเมตร ลานเป็นพืชที่มีช่อดอกที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีจำนวนดอกถึง 15 ล้านดอก แต่ละต้นจะออกดอกเพียงครั้งเดียว เมื่ออายุ 20-30 ปี ลำต้นเดี่ยวสูงถึง 25 เมตร เป็นไม้ต้นเดี่ยวไม่แตกหน่อหรือกอ คล้ายตาลแต่ลำต้นสั้น ไม่สูงชะลูดเหมือนตาล

ใบ ประกอบรูปพัด เรียงเวียนรอบลำต้น กว้าง 2-3 เมตร แผ่นใบหนา ผิวใบด้านบนสีเขียวมีนวลปกคลุม ปลายใบแยกเป็นแฉกลึก โคนใบ1-2 ใน 6 ส่วนของความยาวใบติดกันเป็นแถบ ขอบใบมีหนาม ก้านใบยาว 3-4 เมตรมีหนามคม

ดอก สีขาว กลิ่นฉุน ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงที่ปลายยอดลำต้น มีทั้งดอกสมบูรณ์เพศและไม่สมบูรณ์เพศอยู่ร่วมต้น ช่อดอกชูตั้งขึ้นยาว 2-3 เมตร มีดอกย่อย 60 ล้านดอกต่อช่อ ออกดอกและติดผลเพียงครั้งเดียวแล้วตาย ต้นต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 30 ปี จึงจะมีดอก ดอกบานเต็มที่กว้าง 3-5 มิลลิเมตร
ผล ผลสดแบบมีเนื้อเมล็ดเดียว ทรงไข่กลับหรือกลม ขนาด 3.5-4.5 เซนติเมตร ผลแก่สีน้ำตาล เมล็ดกลมสีดำ
การขยายพันธุ์ของลาน
เพาะเมล็ด
ธาตุอาหารหลักที่ลานต้องการ
ประโยชน์ของลาน
- ใบ นำมาใช้มุงหลังคา นำมาจักสานเป็นเครื่องใช้ต่างๆ
- เมล็ดอ่อน รับประทานสดได้ ผลแก่ ต้องนำมาเพาะถึงจะรับประทานได้ ข้างในของผลลาน มีลักษณะเดียวกับผลตาล สามารถนำมารับประทานเป็นผลไม้ได้ น้ำหวานจากดอก จะทำน้ำเชื่อมหรือเคี่ยวทำน้ำตาลปี๊บ

สรรพคุณทางยาของลาน
- ใบลานนำมาเผาไฟใช้ปรุงยาดับพิษต่างๆ แก้อักเสบ ฟกบวม
- ต้น แก้พิษต่างๆ รากฝนน้ำดื่มแก้ร้อนใน ขับเหงื่อ แก้ไข้หวัด

คุณค่าทางโภชนาการของลาน
การแปรรูปของลาน
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9923&SystemType=BEDO
http://nakhonpathom.go.th
https://www.flickr.com