กระดุมไพลิน
ชื่ออื่นๆ : กระดุมไพลิน, กระดุมหยก (กรุงเทพฯ)
ต้นกำเนิด : อเมริกาเขตร้อน
ชื่อสามัญ :
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Centratherum punctatum Cass.
ชื่อวงศ์ : Brazil button flower
ลักษณะของกระดุมไพลิน
ต้น: ไม้ล้มลุก สูง 10–50 ซม. มีขนสั้นนุ่มตามลำต้นและใบ
ใบ: ใบเรียงเวียน ยาว 2.5–8 ซม. ขอบจักซี่ฟันสองชั้น เส้นแขนงใบข้างละ 5–8 เส้น ก้านใบยาว 0.5–1 ซม. มีครีบ
ดอก: ช่อดอกแบบช่อกระจุกแน่นออกเดี่ยว ๆ ที่ปลายกิ่ง เส้นผ่านศูนย์กลาง 2–8 ซม. ก้านช่อยาว 5–8 ซม. วงใบประดับชั้นนอกคล้ายใบ ไม่มีดอกย่อย ชั้นในสีเขียวมีแต้มสีม่วงแดง รูปขอบขนาน ยาว 0.5–1 ซม. ดอกสีม่วง ดอกย่อยวงในยาว 0.9–1.4 ซม. วงกลีบดอกเชื่อมติดเป็นหลอด ด้านในมีขน มี 5 แฉกรูปขอบขนาน เกสรเพศผู้ 5 อัน รังไข่ใต้วงกลีบ ยอดเกสรเพศเมียแยก 2 แฉก
ผล: ผลแห้งเมล็ดล่อน ยาว 3–5 มม. มีสันตามยาว แพปพัสเป็นขนคล้ายหนามจำนวนมาก ยาว 1–3 มม.
การขยายพันธุ์ของกระดุมไพลิน
กระจายพันธุ์ด้วยตนเองจากเมล็ดแก่ที่หลุดล่วงจากต้นแม่
ธาตุอาหารหลักที่กระดุมไพลินต้องการ
ประโยชน์ของกระดุมไพลิน
- ปลูกเป็นไม้คลุมดิน
- เป็นไม้ประดับและวัชพืช
- น้ำมันที่สกัดจากใบเป็นยาปฏิชีวนะ
สรรพคุณทางยาของกระดุมไพลิน
คุณค่าทางโภชนาการของกระดุมไพลิน
การแปรรูปของกระดุมไพลิน
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=10521&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com