กล้วยเล็บช้างกุด
ชื่ออื่นๆ : กล้วยเล็บช้างกุด, กล้วยโก๊ะ, อีเต่า
ต้นกำเนิด : พบทางภาคใต้
ชื่อสามัญ : Banana, Cultivated banana
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Musa (BBB group) “Kluai Lep Chang kut”
ชื่อวงศ์ : MUSACEAE
ลักษณะของกล้วยเล็บช้างกุด
ต้น ลำต้นสูง 3.5 – 4 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 15 – 20 เซนติเมตร กาบลำต้นด้านนอกมีสีเขียวมีนวลไม่มีปื้นดำ ด้านในมีสีเขียว
ใบ ก้านใบมีสีเขียว เส้นกลางใบสีเขียว
ดอก ช่อดอกไม่มีขน ปลีค่อนข้างป้อมมีความกว้างมาก ปลายมน ด้านนอกมีสีแดงอมม่วง มีนวล ด้านในมีสีแดงสดใส เมื่อกาบปลีกางออกจะตั้งฉากกับช่อดอก ไม้ม้วนงอขึ้น กาบปลีแต่ละใบจะซ้อนกันลึก
ผล เครือหนึ่งมีประมาณ 8 หวีขึ้นไป หวีหนึ่งมี 14 – 18 ผล ลักษณะผลป้อมคล้ายกล้วยตานี ปลายผลมน ก้านผลยาว เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีเหลือง รสหวาน เนื้อมีแป้งมาก บางผลมีเมล็ด ถ้าต้มแล้วเนื้อจะแน่นเหนียว
การขยายพันธุ์ของกล้วยเล็บช้างกุด
การแยกหน่อ
การปลูก ขุดหลุมขนาด 30x30x30 เซนติเมตร วางหน่อลงปลูกกลางหลุม กลบดินโดยรอบให้แน่น หลังปลูก 1 เดือนให้ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 จากนั้นให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 สลับกับปุ๋ยอินทรีย์ทุก 3 เดือน
ธาตุอาหารหลักที่กล้วยเล็บช้างกุดต้องการ
ประโยชน์ของกล้วยเล็บช้างกุด
- ผลสุกรับประทานเป็นผลไม้
- ผลใช้แปรรูปเป็นขนมหวาน
สรรพคุณทางยาของกล้วยเล็บช้างกุด
สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ *สรรพคุณของกล้วย*
คุณค่าทางโภชนาการของกล้วยเล็บช้างกุด
การแปรรูปของกล้วยเล็บช้างกุด
ผลห่ามนำมาปิ้ง ย่าง ต้ม ทำกล้วยบวชชี ขนมกล้วย ข้าวต้มมัดเป็นต้น
สามารถติดตามความรู้เเกี่ยวกับเรื่องกล้วย การปลูกกล้วย พันธุ์กล้วย เพิ่มเติมได้ที่ เกษตรตำบล.คอม
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ :
Phangan Heritage Garden
www.rpplant.royalparkrajapruek.org
2 Comments