กะหล่ำดอก
ชื่ออื่นๆ : กะหล่ำดอก, กะหล่ำต้น, ผักกาดดอก (ทั่วไป)
ต้นกำเนิด : เมดิเตอร์เรเนียน
ชื่อสามัญ : Cauliflower, Heading Broccoli
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Brassica oleracea L.
ชื่อวงศ์ : BRASSICACEAE (CRUCIFERAE)
ลักษณะของกะหล่ำดอก
ต้น เป็นพืชล้มลุก อยู่ในตระกูลเดียวกับกะหล่ำปลี มีทรงพุ่ม ลำต้นตั้งตรง มีลักษณะกลมๆ มีขนาดใหญ่อวบ จะมีใบหุ้มโดยรอบๆ จะมีสีเขียว มีนวล
ใบ ใบเดี่ยว รูปไข่หรือรูปขอบขนานแกมรูปไข่ ใบจะหุ้มโดยรอบๆลำต้น มีใบหุ้มชั้นนอกหลายชั้น ผิวใบเรียบ ไม่มีก้านใบ มีสีเขียว มีนวล
![ต้นกะหล่ำดอก](https://www.kasettambon.com/wp-content/uploads/2016/07/46615749892_6db00a5217_c-799x533-e1637930639352.jpg)
ดอก อยู่เป็นช่อ เป็นดอกเดี่ยว มีดอกขนาดเล็กๆ อยู่รวมกันเป็นช่ออัดตัวกันแน่น ในดอกเดียวกัน ดอกมีหลายช่อเกาะกลุ่มแน่นเป็นช่อๆ อยู่เป็นกระจุกกลม สีขาว สีเหลือง สีม่วง ตามสายพันธุ์ มีกลีบเลี้ยงสีเขียว ก้านดอกสั้น อยู่ปลายของลำต้น เนื้อแน่นฉ่ำน้ำ รสชาติหวานกรอบ มีกลิ่นเฉพาะตัว
![ใบกะกล่ำดอก](https://www.kasettambon.com/wp-content/uploads/2016/07/31118283282_35d15fd80b_c-600x800.jpg)
การขยายพันธุ์ของกะหล่ำดอก
การเพาะเมล็ดแล้วย้ายกล้าปลูก
แบ่งได้ 3 กลุ่ม ตามอายุการเก็บเกี่ยว คือ พันธุ์เบา พันธุ์ขนาดกลาง และพันธุ์หนัก
กะหล่ำดอก เป็นพืช สามารถปลูกได้ในดินทุกชนิด ชอบดินค่อนข้างเหนียว จะทำให้ดินอุ้มน้ำดี การปลูกจะปลูกโดยใช้เมล็ดพันธุ์ นิยมปลูกโดยการเพาะต้นกล้าก่อน เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 30 วัน แล้วจึงทำการย้ายปลูก ในแปลงที่เตรียมไว้ ให้เว้นระยะห่างประมาณ 30×60 เซนติเมตร
การดูแลรักษา กะหล่ำดอกเป็นพืช ชอบอากาศหนาวเย็น ชอบน้ำมาก ต้องระบายน้ำดี น้ำไม่ขัง ชอบแดด ต้องดูแลรดน้ำเสมอ ต้องหมั่นรดน้ำให้ชุ่ม โดยรดน้ำเช้าเย็น และโดนแดดได้ตลอดวัน จะทำให้กะหล่ำดอกเติบโตเต็มที่
อายุเก็บเกี่ยว 60-120 วันหลังจากย้ายปลูก บางสายพันธุ์ที่ทนร้อนมีอายุเก็บเกี่ยว 45-55 วัน ในการเก็บเกี่ยวนิยมตัดยอดของลำต้นใต้ช่อดอกให้มีใบห่อหุ้มส่วนของช่อดอกไว้ด้วย
ธาตุอาหารหลักที่กะหล่ำดอกต้องการ
ประโยชน์ของกะหล่ำดอก
- นิยมนำมาปรุงให้สุกก่อนรับประทาน อาจนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ รับประทานสดเป็นผักสลัด หรือนำมาต้มซุปผักร่วมกับผักชนิดอื่นๆ
- ดอกกะหล่ำ มีวิตามินซีนี้มีหน้าที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรค ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ช่วยลดการป่วยและป้องกันการเป็นหวัด โรคเลือดออกตามไรฟัน และช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจนในร่างกาย มีโพแทสเซียมที่ช่วยควบคุมการทำงานของหัวใจและควบคุมระดับความดันโลหิตในร่างกาย มีฟอสฟอรัสกับแคลเซียมที่ช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
![ดอกกะหล่ำ](https://www.kasettambon.com/wp-content/uploads/2016/07/2239378327_d10fd845e6_c-800x600-e1637930749267.jpg)
สรรพคุณทางยาของกะหล่ำดอก
- รักษาโรคกระเพาะอาหาร
- ช่วยลดความดันโลหิต
- ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยลดคอเลสเตอรอล
- ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์
- ช่วยขับถ่าย แก้ท้องผูก แก้จุกเสียดแน่นท้อง
- ช่วยป้องกันโรคมะเร็งเต้านม ช่วยป้องกันโรคมะเร็งรังไข่ ช่วยป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก
- ช่วยบำรุงผิวพรรณ
- ช่วยขับสารพิษ
- ช่วยบำรุงไต
- ช่วยลดอาการปวดศรีษะ
- ช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
- ช่วยบำรุงกระดูก
- ช่วยบำรุงฟัน
- มีภูมิคุ้มกัน
- ช่วยป้องกันหวัด
![กะหล่ำดอก](https://www.kasettambon.com/wp-content/uploads/2016/07/16627800959_1e4317b0a5_c-800x568-e1637930961899.jpg)
คุณค่าทางโภชนาการของกะหล่ำดอก
ดอกอ่อน 100 กรัม ประกอบด้วย
- น้ำ 88 กรัม
- โปรตีน 4 กรัม
- ไขมัน 0.3 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 6 กรัม
- เส้นใย 1.5 กรัม
- แคลเซียม 25 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 325 มิลลิกรัม
- แคโรทีน 200 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 40 มิลลิกรัม
การแปรรูปของกะหล่ำดอก
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11238&SystemType=BEDO
http://www.rspg.or.th
https://www.flickr.com
3 Comments