ขี้เจียก ตำแยดิน ชื่อวิทยาศาสตร์ สรรพคุณ แก้ไอ

ขี้เจียก

ชื่ออื่นๆ :  ขี้เจียก (อุบลราชธานี) เครือพูทอง, ตำแยดิน

ต้นกำเนิด :  พบตามป่าเต็งรัง และป่าดิบแล้งที่เป็นหินทราย ที่ระดับความสูง 150-650 เมตร

ชื่อสามัญ :

ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Argyreia thorelii Gagnep

ชื่อวงศ์ :  CONVOLVULACEAE

ลักษณะของขี้เจียก

ต้น  ไม้เถาเลื้อยล้มลุก มีหัวใต้ดิน มีขนยาวสีน้ำตาลทองประปรายตามกิ่ง แผ่นใบทั้งสองด้าน หนาแน่นตามช่อดอก ใบประดับ และกลีบเลี้ยง

ใบ  ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปแถบแกมรูปใบหอก กว้าง 1.2-2.5 เซนติเมตร ยาว 8-14 เซนติเมตร ปลายใบแหลมถึงเรียวแหลม โคนใบป้าน แผ่นใบค่อนข้างหนา แผ่นใบด้านล่างมีนวล เส้นแขนงใบข้างละ 7-9 เส้น ก้านใบมีขนหยาบแข็ง ก้านใบยาว 0.7-1 ซม. ดอกช่อ แบบช่อกระจุก ออกสั้นๆที่ซอกใบ

ต้นขี้เจียก
ต้นขี้เจียก ไม้เถาเลื้อยมีขนยาวสีน้ำตาลทองประปรายตามกิ่ง

ดอก  ดอกย่อย 3-7 ดอก ในแต่ละช่อ ก้านช่อยาว 1-1.5 เซนติเมตร ก้านดอกยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร ใบประดับรูปใบหอก ยาว 0.8-1.2 เซนติเมตร ติดทน กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปใบหอกแกมรูปแถบ ปลายแหลม มีขนหยาบแข็ง ขนาดไม่เท่ากัน กลีบคู่นอกยาว 1.8-2 เซนติเมตร 3 กลีบในสั้นกว่าเล็กน้อย กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด กลีบดอกรูปดอกเข็ม ปลายแหลม แยกเป็น 5 แฉก หลอดกลีบดอกยาว 4-5 เซนติเมตร แฉกกลีบดอกยาวประมาณ 2 เซนติเมตร เกสรเพศผู้ยื่นพ้นเลยปากกลีบดอก ยาว 3.8-4 เซนติเมตร ก้านชูอับเรณูแผ่กว้างด้านโคน มีปุ่มขนาดเล็กกระจาย โคนอับเรณูรูปเงี่ยงลูกศร เรณูเป็นหนามละเอียด จานฐานดอกรูปวงแหวน รังไข่เกลี้ยง มี 2 ช่อง เกสรเพศเมียยาวเท่า ๆ เกสรเพศผู้ ยอดเกสรหยัก 2 พู ออกดอกราวเดือนสิงหาคมถึงกันยายน

ดอกขี้เจียก
ดอกขี้เจียก ดอกสีขาว ออกเป็นช่อกระจุก

ผล  ผลสดเมื่อแห้งแตก ทรงกลม มีหลายเมล็ด

ผลขี้เจียก
ผลขี้เจียก ผลเป็นทรงกลม แห้งแตก

การขยายพันธุ์ของขี้เจียก

การเพาะเมล็ด

ธาตุอาหารหลักที่ขี้เจียกต้องการ

ประโยชน์ของขี้เจียก

  • สรรพคุณสมุนไพร

สรรพคุณของขี้เจียก

  • ราก ต้มน้ำดื่ม แก้ไอ รับประทานสด เป็นยาระบาย

คุณค่าทางโภชนาการของขี้เจียก

การแปรรูปขี้เจียก

สามารถติดตามความรู้เเกี่ยวกับการเกษตร เพิ่มเติมได้ที่ เกษตรตำบล.คอม

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

3 Comments

Add a Comment