ตานดำ
ชื่ออื่นๆ : ดำดง (ประจวบคีรีขันธ์); ตานดำ, ตานส้าน (ภาคกลาง); ถ่านไฟผี (ภาคเหนือ); มะเกลือป่า (นครสวรรค์, ปราจีนบุรี); มะตูมดำ (สระบุรี); อิน (กาญจนบุรี)
ต้นกำเนิด :
ชื่อสามัญ :
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Diospyros montana Roxb.
ชื่อวงศ์ : Ebenaceae
ลักษณะของตานดำ
ไม้ยืนต้น สูงได้ถึง 15 ม. กิ่งมีหนาม ใบรูปรี รูปขอบขนาน รูปไข่ หรือรูปไข่กลับ ยาว 2-12 ซม. แผ่นใบมีขนสั้นนุ่มทั้งสองด้าน เส้นแขนงใบข้างละ 3-7 เส้น ก้านใบยาว 0.2-1 ซม. ดอกเพศผู้ ก้านดอกยาวประมาณ 2 มม. กลีบเลี้ยงรูประฆัง ยาว 1-2 มม. มี 4 กลีบ แฉกลึกเกือบจรดโคน มีขนประปรายทั้งสองด้าน ดอกรูปคนโท ยาว 0.8-1 ซม. มี 4 กลีบ แฉกลึกเกินกึ่งหนึ่ง เกสรเพศผู้มี 14-20 อัน รังไข่ที่ไม่เจริญมีขนยาว ดอกเพศเมียออกเดี่ยว ๆ ก้านดอกยาวประมาณ 5 มม. รังไข่มี 8 ช่อง เกลี้ยง ก้านเกสรเพศเมีย 4 อัน เกสรเพศผู้ที่เป็นหมัน 4-12 อัน ผลกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 1-3 ซม. กลีบเลี้ยงบานออกหรือพับงอกลับ เมื่อแก่มีสีเหลือง ก้านผลยาว 5-7 มม. เอนโดสเปิร์มเรียบ
การขยายพันธุ์ของตานดำ
ใช้ส่วนอื่นๆ
ธาตุอาหารหลักที่ตานดำต้องการ
ประโยชน์ของตานดำ
ผลมีพิษใช้เบื่อปลาและนำมาย้อมสีได้
สรรพคุณทางยาของตานดำ
มีสรรพคุณเป็นยาสมาน ลดไข้ เปลือกแก้ปวดท้อง โรคบิด
เนื้อไม้และราก รสเมาเบื่อเย็น ขับพยาธิไส้เดือน ตัวตืด แก้พิษตานซาง แก้ผอมแห้ง
แก่น แก้ไตพิการ ขับพยาธิ แก้ตานซาง แก้ผอมแห้ง บำรุงร่างกาย
เปลือกต้น ลดไข้ แก้อักเสบ ฝนน้ำกิน วันละ 2-4 ครั้งแก้ไข้
คุณค่าทางโภชนาการของตานดำ
การแปรรูปของตานดำ
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9920&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com