ต้นพญารากดำ หรือ กะเจียน สรรพคุณรักษาแผลในปาก แก้กระษัย

ต้นพญารากดำ

ชื่ออื่นๆ : ค่าสามซีก (เชียงใหม่) แคหาง (ราชบุรี) จันทน์ดง ทรายเด่น (ขอนแก่น) พญารากดำ(ชลบุรี) โมดดง (ระยอง) สะบันงาป่า (ภาคเหนือ) เหลือง (ลำปาง)

ต้นกำเนิด :

ชื่อสามัญ : กระเจียน

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hubera cerasoides (Roxb.) Chaowasku

ชื่อวงศ์ : ANNONACEAE

ลักษณะของต้นพญารากดำ

ต้น เป็นไม้ต้น สูง 5-12 เมตร ลำต้นเปลาตรง กิ่งออกเกือบตั้งฉากกับต้น

ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับถี่ที่ปลายกิ่ง รูปรีแกมรูปใบหอกหรือรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก ขนาด 4-10 x 2-3 เซนติเมตร ปลายแหลม โคนมนและเบี้ยว ก้านใบยาว 2-5 มิลลิเมตร

ดอก ดอกออกเดี่ยวตามซอกใบ สีเขียวหรือเขียวอมเหลือง ก้านดอกยาว 2-3 เซนติเมตร ใบประดับรูปไข่ ดอกขนาด 1.5-2 เซนติเมตร กลีบเลี้ยง 3 กลีบ กลีบดอก 6 กลีบ เรียงสลับกันเป็น 2 ชั้น ออกดอกเดือนมกราคมถึงเมษายน

ผล ผลออกเป็นกลุ่ม แต่ละผลรูปค่อนข้างกลม ขนาด 6-8 มิลลิเมตร ก้านผลเรียว ยาว 2-3 เซนติเมตร ผลอ่อนสีเขียว สุกสีแดง

ใบกะเจียน
ใบสีเขียว เรียวใหญ่ ปลายแหลม
ดอกกะเจียน
ดอกกะเจียน ดอกเขียวอมเหลือง กลีบเลี้ยง 3 กลีบ

การขยายพันธุ์ของต้นพญารากดำ

การใช้เมล็ด

ธาตุอาหารหลักที่ต้นพญารากดำต้องการ

ประโยชน์ของต้นพญารากดำ

  • เป็นไม้ที่ทั้งต้นมีใบดก ให้ร่มเงาได้ดี
  • เนื้อไม้สีขาวอมเหลือง ใช้ทำด้ามเครื่องมือเกษตรกรรมทั่วไป

สรรพคุณทางยาของต้นพญารากดำ

  • เปลือก รักษาแผลในปาก
  • ราก แก้กระษัย (อาการป่วยที่เกิดจากหลายสาเหตุทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม ซูบผอม โลหิตจาง ปวดเมื่อย) คุมกำเนิด บำรุงกำลังสำหรับบุรุษ และแก้ไข้

คุณค่าทางโภชนาการของต้นพญารากดำ

การแปรรูปของต้นพญารากดำ

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9249&SystemType=BEDO
http://www.khaohinsonbg.org
http://www.botany.sc.chula.ac.th

Add a Comment