ลำไย เนื้อมีสีขาวขุ่น รสหอมหวาน

ลำไย

ชื่ออื่นๆ : บ่าลำไย (ภาษาพื้นบ้านภาคเหนือ)

ต้นกำเนิด : เขตร้อนและกึ่งร้อนของเอเชีย

ชื่อสามัญ : ลำไย

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dimocarpus longan

ชื่อวงศ์ : Sapindaceae

ลักษณะของลำไย

ต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูง 9 – 12 เมตร เรือนยอดกลมและเป็นพุ่มทึบเปลือกขรุขระ สีน้ำตาลหรือสีเทา กิ่งค่อนข้างเปราะ เนื้อไม้ มีสีแดงและแข็ง

ใบ เป็นใบประกอบ มีใบย่อย 2 – 5 คู่ ออกตรงข้ามหรือสลับกัน รูปร่างใบเรียวยาว สีเขียวเข้มเป็นมัน ขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย

ดอก ดอกเป็นช่อแบบพานิเคิล (panicle) มีขนาดเล็ก ดอกเกิดที่ปลายยอด ดอกมีสีครีมหรือขาวปนเหลือง เป็นดอกสมบูรณ์ เพศในช่อดอกเดียว กัน และมีดอกเพศผู้ดอกเพศเมีย ออกดอกเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม

ผล ผลมีรูปร่างค่อนข้างกลม เปลือกบางสีน้ำตาลอ่อน เนื้อมีสีขาวขุ่น รสหอมหวาน ให้ผลในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม

เมล็ด เมล็ด ผลหนึ่งๆ มีเมล็ดเดียว รูปร่างกลม สีดำเข้มเป็นมัน ด้านบนของเมล็ดมีเนื้อเยื่อติดเป็นวงขาว ๆ ทำให้มีลักษณะคล้ายลูกตา

ต้นลำไย
ต้นลำไย เปลือกขรุขระสีน้ำตาล กิ่งเปราะ
ดอกลำไย
ดอกลำไย ออกเป็นช่อ ดอกมีสีครีมหรือขาวปนเหลือง

การขยายพันธุ์ของลำไย

การเพาะเมล็ด

พันธุ์ลำไย
ลำไยปลูกในหลายประเทศที่สำคัญคือประเทศจีนมีการปลูกลำไยถึง 26 พันธุ์ คือพันธุ์ที่ปลูกในมณฑล กวางตุ้ง 12 สายพันธุ์ปลูกในประเทศไต้หวันอีก 15 สายพันธุ์ปลูกในสหรัฐอเมริกามี 1 สายพันธุ์คือ พันธุ์โคฮาลาพันธุ์ลำไยในประเทศไทย จำแนกออกตามลักษณะผลเนื้อเมล็ดและรสชาติแบ่งได้ 5 พวก คือ

  1. ลำไยกะโหลก เป็นพันธุ์ลำไยที่ให้ผลขนาดใหญ่มีเนื้อหนารสหวานมีหลายสายพันธุ์ คือ

    – สีชมพู
    ผลใหญ่ เนื้อหนา เมล็ดเล็ก เนื้อมีสีชมพูเรื่อๆ รสดีมากที่สุด
     – ตลับนาค ผลใหญ่ เนื้อหนา เมล็ดเล็ก หวานกรอบแห้ง เปลือกบาง
     – เบี้ยวเขียว หรืออีเขียว ผลใหญ่กลมเบี้ยว เนื้อหนา เมล็ดเล็ก หวานกรอบ เนื้อล่อน
     – อีดอ ผลขนาดปานกลาง เมล็ดเล็ก รสหวาน แบ่งเป็น 2 ชนิดคือ อีดอยอดแดง ใบอ่อนมีสีแดงกับอีดอยอดเขียว ใบอ่อนมีสีเขียว
     – อีแดง สีเปลือกของผลค่อนข้างแดง เป็นพันธุ์กลาง กิ่งเปราะหักง่าย ผลกลมใหญ่เมล็ดใหญ่ รสหวานแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คืออีแดงเปลือกหนา มีใบป้อมใหญ่ผลใหญ่ กับอีแดงเปลือกบาง ใบยาวผลเล็กกว่าอีแดงเปลือกหนา
     – อีดำ ผลใหญ่ ใบดำ เนื้อหนา เมล็ดเล็ก หวานกรอบ แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ อีแห้วยอดแดง เมล็ดปานกลาง อีแห้วยอดขาว ผลกลมใหญ่ หัวเบี้ยว เนื้อกรอบ ไม่หวาน
  2. ลำไยกระดูก เป็นพันธุ์พื้นเมือง ทรงพุ่มกว้างใบหนาทึบ ผลเล็กมีน้ำมาก เนื้อน้อยไม่หวาน มีน้ำตาลประมาณ 13.75% ขึ้นได้ทั่วไปปลูกง่าย เหลือให้เห็นน้อย เพราะไม่นิยมปลูก ไม่มีราคา
  3. ลำไยธรรมดา ผลปานกลาง เนื้อหนากว่าลำไยพันธุ์กระดูก เนื้อกรอบบางมีน้ำมาก ให้ผลดก
  4. ลำไยสายน้ำผึ้ง ลักษณะคล้ายลำไยธรรมดา แต่เนื้อมีสีเหลืองอ่อน เนื้อมีรสดี หอมกรอบ เมล็ดเล็ก
  5. ลำไยเถาหรือลำไยเครือ เป็นไม้ต้นรอเลื้อย ลำต้นไม่มีแก่นจึงพันเข้ากับรั้วหรือหลัก ผลเล็กและเมล็ดโตกว่าลำไยบ้าน เนื้อหุ้มเมล็ดบาง
ผลลำไย
ผลลำไย ผลกลม เปลือกบางสีน้ำตาลอ่อน

ธาตุอาหารหลักที่ลำไยต้องการ

ประโยชน์ของลำไย

  • ผลสดนำมารับประทาน
  • ลำไยทำเป็นอาหารหวาน เช่น ข้าวเหนียวเปียกลำไย วุ้นลำไย ลำไยลอยแก้ว น้ำลำไย
  • ลำต้นใช้ทำเครื่องเรือนตกแต่งบ้าน ลำต้นมีขนาดใหญ่ สูงประมาณ 30-40 ฟุต เนื้อไม้มีสีแดงและแข็ง
  • นิยมปลูกไว้ประดับมากกว่าปลูกไว้รับประทาน ชอบขึ้นตามป่าเขา

สรรพคุณทางยาของลำไย

  • เปลือกของต้นมีสีน้ำตาลอ่อนหรือเทาและมีรสฝาดใช้ต้มเป็นยาหม้อแก้ท้องร่วง
  • ลำไยตากแห้งสามารถทำเป็นชาชงดื่ม เป็นยาบำรุงกำลังช่วยให้หลับสบายเจริญอาหาร แต่ถ้ากินลำไยมากเกินไปจะเกิดอาการร้อนใน แผลในปาก หรือตาแฉะได้ ในตำรายาจีนเรียกกุ้ยหยวน (ภาษาจีนกลาง) หรือ กุ้ยอี้ (ภาษาจีนแต้จิ๋ว) ใช้เป็นยาบำรุงเลือด กล่อมประสาท
เนื้อผลลำไย
เนื้อผลลำไย เนื้อมีสีขาวขุ่น รสหอมหวาน

คุณค่าทางโภชนาการของลำไย

  • ลำไยสดทั่วไปประกอบด้วย
    – น้ำ    81.1 %
    – คาร์โบไฮเดรต     16.98 %
    – โปรตีน    0.97 %
    – เถ้า     0.56 %
    – กาก    0.28 %
    – ไขมัน    0.11 %
  • ในลำไยสด  100  กรัม จะมีค่าความร้อน   72.8  แคลอรี
    – มีวิตามิน   69.2   มิลลิกรัม
    – แคลเซียม   57   มิลลิกรัม
    – ฟอสฟอรัส   35.17   มิลลิกรัม
    – ธาตุเหล็ก   0.35   มิลลิกรัม

การแปรรูปของลำไย

ลำไยแปรรูปบรรจุกระป๋องหรือตากแห้ง ผลลำใยอบแห้ง ต้มน้ำดื่ม เป็นต้น

เมนูของหวานจากลำไย
เต้าทึงน้ำลำไย เมนูของหวานจากลำไย

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=10004&SystemType=BEDO
www.flickr.com

6 Comments

Add a Comment