ยอ ลูกยอ
ชื่ออื่นๆ : ยอแย่ใหญ่ (แม่ฮ่องสอน), ตาเสือมะตาเสือ (ภาคเหนือ), ยอบ้าน (ภาคกลาง)
ต้นกำเนิด : อินเดีย ถึงตอนใต้ของจีน
ชื่อสามัญ : Great morinda, Tahitian noni, Indian mulberry, Beach mulberry
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Morinda citrifolia L.
ชื่อวงศ์ : RUBIACEAE
ต้นยอเป็นพืชพื้นเมืองในแถบโพลีนีเซียตอนใต้ (Polynesia) และแพร่กระจายไปยังประเทศอื่นๆโดยมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิดคือ
ยอบ้านและยอป่า ที่เราพบเห็นกันบ่อยๆ ก็คือยอบ้านยอเป็นไม้ยืนต้นมีใบสีเขียวมีดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบลักษณะของผลยาวรีผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกจะเป็นสีขาวนวลมีเนื้อนุ่มในผลมีเมล็ดจํานวนมาก มีสีน้ำตาลสําหรับรสชาติจะออกรสเผ็ดและมีกลิ่นแรง
ลูกยอจัดเป็นยาสมุนไพรที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในเรื่องการช่วยแก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน และถูกบรรจุอยู่ในยาสมุนไพร ในงานสาธารณสุข มูลฐานโดยลูกยอสุกเป็นยาชั้นเลิศในการช่วยขับลมและช่วยย่อยอาหาร แต่สําหรับหญิงที่ตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานผลยอ เพราะจะมีผลโดยตรงต่อระบบการหมุนเวียนของเลือดในครรภ์และอาจทําให้แท้งบุตรได้
ประโยชน์ของยอ ลูกยอ
ลูกยออุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลากชนิด โดยลูกยอบดจะประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรตเส้นใยอาหารวิตามินเอวิตามินซีวิตามินบี 3 ธาตุแคลเซียม ธาตุเหล็ก ธาตุโพแทสเซียม ธาตุโซเดียม เป็นต้น แต่ถ้าคั้นเอาแต่น้ำลูกยอจะเหลือแต่วิตามินซี นอกจากนี้ลูกยอยังมีสารอื่นๆ อีกด้วยเช่นกรดไขมันลิกนินพอลิแซ็กคาไรด์ฟลาโอนอยด์ อีริดอยด์สโครโปเลตินแอลคาลอยด์
- ลูกยอสุกนํามาจิ้มกินกับเกลือหรือกะปิ
- ลูกห่ามใช้ทําส้มตํา
- ใบอ่อนนํามาลวกกินกับน้ำพริกใช้ทําแกงจืดแกงอ่อมผัดไฟแดงหรือนํามาใช้รองกระทงห่อหมก (เวลากินห่อหมกควรกินใบยอด้วยเพราะมีวิตามินสูง)
- นํามาใช้ทําสีย้อมผ้า รากนํามาใช้ย้อมสีให้สีแดงและสีน้ำตาลอ่อนส่วนเปลือกจะให้สีแดง เนื้อเปลือกจะให้สีเหลืองใช้ย้อมผ้าบาติก
- ปัจจุบันมีการนําลูกไปแปรรูปโดยคั้นเป็นน้ำลูกยอ Noni หรือ น้ำลูกยาโนนิ
- รากยอ มีการนํามาใช้แกะสลัก ทํารงควัตถุสีเหลือง
- ใบสด มีการนํามาใช้ทําเป็นอาหารสัตว์หรือนํามาเลี้ยงตัวหนอนไหม
- ลูกยอสุก มีการนํามาใช้ทําเป็นอาหารหมู
- มีการนํามาใช้ทําเป็นยารักษาสัตว์ (แพทย์ทางเลือกสมัยใหม่)หมายเหตุ: ประโยชน์ของลูกยอบางประการข้างต้นยังอยู่ในระดับการศึกษาเริ่มต้นเท่านั้น และยังเร็วเกินไปที่จะสรุปได้ว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากน้อยแค่ไหนซึ่งในทางวิทยาศาสตร์ยังคงต้องรอการพิสูจน์ต่อไป
สรรพคุณทางยาของยอ ลูกยอ
- ลูกยอเป็นแหล่งของแคลเซียมและยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง
- ช่วยในการชะลอวัยและความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
- ช่วยบํารุงผิวพรรณหนังศีรษะและผม
- ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ (น้ำลูกยอ)
- สารสโคโปเลติน (Scopoletin) ในน้ำลูกยอมีฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือดที่หดตัวทําให้ความดันโลหิตลดลงจนเป็นปกติ (ลูกยอ, น้ำลูกยอ)
- มีส่วนช่วยรักษาโรคเบาหวาน (น้ำสกัดจากใบยอ)
- ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง (น้ำสกัดจากลําต้นยอ, น้ำสกัดจากใบยอ)
- ช่วยรักษาโรคกรดไหลย้อน ด้วยการทําเป็นเครื่องดื่มใช้คู่กับหัวหญ้าแห้วหมูอย่างแรก ให้เลือกลูกยอห่ามนํามาหั่นเป็นแว่นๆ ไม่บางหรือหนาจนเกินไปแล้วนําไปย่างไฟอ่อนๆ (ปกติลูกยอจะมีกลิ่นเหม็น) โดยย่างให้เหลืองกรอบและย่างจนหมดกลิ่นเหม็นจริงๆ จึงจะได้ตัวยาที่หอมน่ารับประทาน (การย่างจะนอกจากจะช่วยดับกลิ่นแล้วยังช่วยเพิ่มความเป็นด่างให้กับตัวยาด้วยจึงช่วยซับกรดและลดกรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ) สําหรับหญ้าแห้วหมูให้เอาส่วนหัวใต้ดินที่เราเรียกว่าหัวแห้วหมูนําไปคั่วให้เหลืองและมีกลิ่นหอมเมื่อเสร็จแล้ว ให้ตั้งไฟต้มน้ำจนเดือด แล้วเอาตัวยาทั้งสองชนิดลงไปต้มพร้อมกันใส่น้ำตาลกรวดพอหวานทิ้งไว้สักพัก แล้วยกลงจากเตาตัวยาที่ได้นี้จะมีกลิ่นหอมรอจนอุ่นแล้วนํามารับประทาน ส่วนที่เหลือให้กรองเอาแต่น้ำแช่ไว้ในตู้เย็นแล้วค่อยอุ่นรับประทานให้ดื่มติดต่อกัน 1 สัปดาห์แล้วสังเกตอาการ
- ช่วยแก้วัณโรคด้วยการใช้ผลหรือใบทําเป็นยาพอก (ลูกยอ, ใบยอ)
- ลูกยอมีสารโปรซีโรนีน (Proxeronine) เมื่อรวมตัวกับเอนไซม์โปรซีโรเนส (Proxeronase) จะได้สารซีโรนีน (Xeronine) ที่ลําไส้ใหญ่ เมื่อดูดซึมกลับสู่เซลล์ต่างๆ ในร่างกายจะช่วยปรับสภาพเซลล์ให้มีความสมดุลและแข็งแรงและช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานได้เป็นอย่างดี
- ใช้บําบัดและรักษาโรคมะเร็ง (แพทย์ทางเลือกสมัยใหม่)
- ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับสมอง (แพทย์ทางเลือกสมัยใหม่)
- ใช้รักษาโรคติดสุราหรือยาเสพติด (แพทย์ทางเลือกสมัยใหม่)
- ใช้ลดอาการแพ้ (แพทย์ทางเลือกสมัยใหม่)
- ใช้รักษาโรคหอบหืด (แพทย์ทางเลือกสมัยใหม่)
- ใช้รักษาโรคเบาหวาน (แพทย์ทางเลือกสมัยใหม่)
- ใช้รักษาโรคเส้นเลือดหล่อเลี้ยงหัวใจ (แพทย์ทางเลือกสมัยใหม่)
- ใช้รักษาโรคอ่อนเพลียเรื้อรัง (แพทย์ทางเลือกสมัยใหม่)
- ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหารต่างๆ (แพทย์ทางเลือกสมัยใหม่)
- ใช้รักษาโรคเซลล์เจริญเติบโตนอกมดลูก (Endometriosis) (แพทย์ทางเลือกสมัยใหม่)
- ใช้รักษาโรคภูมิคุ้มกันต่ำ (แพทย์ทางเลือกสมัยใหม่)
- ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง (แพทย์ทางเลือกสมัยใหม่)
- ใช้รักษาโรคเส้นโลหิตตีบ (แพทย์ทางเลือกสมัยใหม่)
- ใช้รักษาโรคโปลิโอ (แพทย์ทางเลือกสมัยใหม่)
- ใช้รักษาไซนัส (แพทย์ทางเลือกสมัยใหม่)
- ช่วยลดปริมาณสารพิษในร่างกายทําให้ร่างกายทํางานได้เป็นปกติเซลล์ในร่างกายอ่อนเยาว์ลง
- ช่วยซ่อมแซมและยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ
- ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและเนื้องอก
- ช่วยกระตุ้นให้เซลล์ใหม่ในร่างกายเจริญเติบโตและทําหน้าที่ได้อย่างเป็นปกติ
- ช่วยแก้กระษัย (ใบยอ, รากยอ)
- ลูกยอมีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาทแบบอ่อนๆช่วยผ่อนคลายความเครียดได้
- ช่วยบํารุงธาตุไฟ (ลูกยอสด)
- ช่วยให้เจริญอาหาร (ลูกยอ)
- ช่วยแก้อาการเบื่ออาหาร (น้ำสกัดจากใบยอ)
- ช่วยทําให้ระบบโลหิตหมุนเวียนดีขึ้น (ลูกยอสด)
- ช่วยบํารุงสมองช่วยเสริมสร้างความจําทําให้มีสมาธิดีขึ้น
- มีฤทธิ์กล่อมประสาทมีส่วนช่วยทําให้นอนหลับง่ายขึ้น
- ผลยอใช้ทําเป็นยาพอกแก้หัวสิว
- ใบยอมีวิตามินเอสูงจึงช่วยบํารุงและรักษาสายตาแก้อาการตาบอดตอนกลางคืนได้ (ใบยอ)
- ใช้รักษากุ้งยิง (ไอระเหยจากลูกยอ, ดอกยอ)
- ช่วยรักษาโรคมาลาเรีย (ใบยอ)
- ช่วยแก้ไข้ (ลูกยอสุก)
- ช่วยรักษาอาการปวดศีรษะ (ใบสด)
- ช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ (ลูกยอสด)
- ช่วยแก้เหงือกเปื่อยเป็นขุยบวม (ลูกยอโตเต็มที่แต่ไม่สุก)
- ใช้รักษาอาการเจ็บหรือแผลตกสะเก็ดรอบปากหรือในปาก (ลูกยอดิบ)
- ช่วยรักษาอาการปากและเหงือกอักเสบ (ลูกยอสุก)
- ช่วยแก้อาการปวดฟัน (ลูกยอสุก)
- ลูกยอสุกมีสารแอสเพอรูโลไซด์ (Asperuloside) ช่วยแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน (ลูกยอสุก)
- ช่วยแก้อาการเจ็บคอ ด้วยการใช้ลูกยอดิบนําไปเผาไฟให้สุกและแช่ในน้ำต้มสุกแล้วรินเอาแต่น้ำดื่ม เพื่อบรรเทาอาการหรือจะใช้ลูกยอสุกบดละเอียดใช้กลั้วคอแก้อาการ (ลูกยอดิบ, สด)
- ช่วยแก้เสมหะด้วยการใช้ลูกยอดิบนําไปเผาไฟให้สุกและแช่ในน้ำต้มสุกแล้วรินเอาแต่น้ำดื่ม
- สารเซโรโทนิน (Serotonin) ในผลยอช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารให้ทํางานได้อย่างสมบูรณ์ทําให้ลําไส้ดูดซึมได้ง่าย
- ช่วยขับลมในลําไส้ (ลูกยอสด, ลูกยอสุก)
- ช่วยในการย่อยอาหารแก้อาการอาหารไม่ย่อย (ลูกยอสด, ลูกยอสุก)
- ช่วยแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อจุกเสียดแน่นท้อง (ลูกยอ)
- ช่วยระบายท้องทําให้ขับถ่ายได้สะดวก (ทุกส่วน)
- ช่วยแก้อาการปวดท้อง (น้ำสกัดจากใบยอ)
- ใบยอใช้ปรุงเป็นอาหารแก้อาการท้องร่วง (ใบยอ)
- ช่วยแก้อาการปวดกระเพาะ (น้ำมันสกัดจากลูกยอ)
- ช่วยลดอาการท้องผูกได้
- สารแอนทราควิโนน (Anthraquinone) ในลูกยอช่วยกระตุ้นทําให้ลําไส้ใหญ่มีการบีบตัวเพิ่มขึ้นจึงช่วยขับของเสียออกจากร่างกายได้มากขึ้น
- ช่วยรักษาอาการระคายเคืองในระบบทางเดินอาหาร
- ช่วยรักษาอาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
- ช่วยรักษาโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ (น้ำสกัดจากใบยอ)
- ใช้รักษาอาการอักเสบปวดบวมปวดในข้อปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ (แพทย์ทางเลือกสมัยใหม่)
- ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับตับ
- ช่วยรักษาโรคดีซ่าน (เปลือกต้น)
- แก้อาการไส้เลื่อน (น้ำสกัดจากใบยอ)
- ในลูกยอมีสารแอนทราควิโนน (Anthraquinone) ช่วยขับพยาธิ (ลูกยอแก่)
- ช่วยขับประจําเดือนทําให้ประจําเดือนมาเป็นปกติ (ลูกยอสด)
- ชาวพื้นเมืองแถบโพลีนีเซีย (Polynesia) ใช้ผลอ่อนใบและรากเพื่อรักษาอาการผิดปกติของประจําเดือน
- น้ำคั้นจากรากยอใช้แก้แผลที่มีอาการอักเสบรุนแรง (รากยอ)
- ลูกยอสุกนํามาบดใช้ทาผิวเพื่อฆ่าเชื้อโรค
- ใช้รักษาบาดแผลและอาการบวม (ลูกยอสุก)
- มีการนําไปทําเป็นน้ํามันสกัดจากเมล็ดยอใช้ทาเพื่อลดอาการอักเสบ (น้ำมันสกัดจากเมล็ดยอ)
- น้ํามันสกัดจากเมล็ดยอช่วยป้องกันแมลง (น้ำมันสกัดจากเมล็ดยอ)
- น้ํามันสกัดจากเมล็ดยอใช้ทาช่วยลดการเกิดสิว (น้ำมันสกัดจากเมล็ดยอ)
- ผลยอใช้ทําเป็นยาพอกรักษาแผลถลอก (ลูกยอ, ใบยอ)
- ผลยอใช้ทําเป็นยาพอกแก้ตุ่มฝีฝักบัว
- ช่วยรักษาแผลพุพอง (ใบยอสด)
- ใบใช้ทําเป็นยาพอกใช้แก้พิษจากการถูกปลาหินต่อย
- ใบใช้ทําเป็นยาพอกใช้แก้กระดูกแตกกล้ามเนื้อแพลง (ใบยอ)
- ลูกยอบนใช้ทาแก้ส้นเท้าแตก
- ผลยอใช้ทําเป็นยาพอกแก้อาการเคล็ดขัดยอกหรือจะใช้ใบยอทําเป็นยาพอกก็ได้ (ลูกยอ, ใบยอ)
- น้ำคั้นจากใบยอใช้ทาแก้อาการปวดตามข้อนิ้วมือนิ้วเท้า (ใบยอ)
- น้ำคั้นจากใบยอใช้ทาเมื่อมีอาการปวดเนื่องจากโรคเกาต์ (ใบยอ)
- ใบสดมีการนํามาใช้สระผมและกําจัดเหาหรือจะใช้น้ำมันสกัดจากเมล็ดยอก็ได้ (ใบสด, น้ำมันสกัดจากเมล็ดยอ)
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=10332&SystemType=BEDO
http://www. dpf.mod.go.th / file:///tmp/mozilla_com0010/24-%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B8%AD.pdf
http://sk.nfe.go.th/kssin02/popup.php?name=knowledge&file=readknowledge&id=41
One Comment