สนสองใบ
ชื่ออื่นๆ : เกี๊ยะเปลือกดำ, เกี๊ยะเปลือกหนา (เชียงใหม่) จ๋วง, เชียงเซา(กะเหรี่ยง แม่ฮ่องสอน) โช, ไต้, แปก, สนเขา, สนหางม้า, สะรอล
ต้นกำเนิด : บทางบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบที่ระดับความสูงตั้งแต่30 เมตร จนถึง 2,000 เมตร
ชื่อสามัญ : Merkus’s pine, Mindora pine, Sumatran pine, Two-needled pine
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pinus merkusii Jungh & De Vriese
ชื่อวงศ์ : PINACEAE
ลักษณะของสนสองใบ
ต้น เป็นไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 10 – 30 ม. ไม่ผลัดใบ ลำต้นเปลาตรง เรือนยอด ที่สมบูรณ์จะเป็นพุ่มกลม เปลือกนอก หนา สีน้ำตาลปนดำ แตกเป็นร่องลึกตามยาวและเป็นสะเก็ดหนา ๆ แข็งมาก ๆ มักมียางสีเหลืองอ่อนใส ๆ ซึมออกตามรอยแตก กระพี้สีเหลืองอ่อนหรือเหลืองแกมขาว มียางซึมทั่วไปแยกจากแก่นเห็นได้ชัด เปลือกใน สีแดง
ใบ ใบแข็ง ยาวเรียว เป็นรูปเข็มออกเป็นกระจุก ๆ ละ 2 ใบ ยาว 15 – 25 ซม. หลังใบเป็นร่องแบบรางน้ำตลอดท้องใบโค้งมนเป็นรูปเกือบม้า ขอบหยักถี่ ละเอียด ปลายแหลม โคนอัดแน่นอยู่ในกระเปราะ ใบมักกระจุกตัวแถวปลายกิ่ง
ดอก ออกเป็นช่อแยกเพศ อยู่บนต้นเดียวกัน ช่อดอกตัวผู้จะออกเป็นสีเหลืองแบบหางกระรอก ติดกันเป็นกลุ่มบริเวณปลายกิ่ง ช่อยาว 2 – 4 ซม. ช่อดอกตัวเมียสีม่วง ออกชิดติดกิ่งถัดเข้ามา มักออกเป็นดอกเดี่ยว ๆ หรือเป็นคู่ เมื่อผสมพันธุ์แล้วจะเติบโตเป็นผลต่อไป
ผล ออกรวมกันเป็นกลุ่ม เรียกว่า cone รูปทรงกระบอก กว้างประมาณ 5 ซม. ยาวประมาณ 10 ซม. ผลแก่ เมื่อแก่จัดรูปไข่ จะแตกอ้าออกเป็นเกล็ด ๆ หรือเป็นกลีบรูปช้อนแข็ง ๆ ติดอยู่กับแกนกลางของผล เมล็ดรูปรี ๆ มีครีบบาง ๆ สีขาว เมล็ดมีจำนวนมาก ขนาดเล็ก ก้านผลยาว 1 ซม.
การขยายพันธุ์ของสนสองใบ
การเพาะเมล็ด, การปักชำกิ่ง
ธาตุอาหารหลักที่สนสองใบต้องการ
ประโยชน์ของสนสองใบ
เนื้อไม้นำมาใช้ในการสร้างบ้านเรือน ทำกระดานพื้น ฝา รอด ตง และทำเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ตู้ โต๊ะ เครื่องเรือน ลังใส่ของบรรจุสินค้า เครื่องดนตรี นอกจากนี้ยางที่ได้จากการเจาะต้นสนสองใบสามารถนำไปสกัดทำน้ำมันสนและชันสนได้
สรรพคุณทางยาของสนสองใบ
- ยางสนหรือชันจากลำต้นใช้เป็นยาสมานแผล ผสมยาทาถูนวดแก้ปวดเมื่อย แก้โรคบิด
- ใบและเปลือกใช้ต้มกับน้ำเป็นยาแก้ผดผื่นคัดตามผิวหนัง
- น้ำมันใช้ทาภายนอกแก้เคล็ดขัดยอก อักเสบบวม หยดในน้ำร้อนประคบแก้ท้องบวม แก้มดลูก และลำไส้อักเสบ
คุณค่าทางโภชนาการของสนสองใบ
การแปรรูปของสนสองใบ
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11350&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com