สาคูไทย
ชื่ออื่นๆ : สาคูไทย, ว่านสาคู, สาคูขาว, สังคู, สาคูวิลาส, มันสาคู
ต้นกำเนิด : อเมริกาใต้
ชื่อสามัญ : arrowroot, West Indian arrowroot
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Maranta arundinaceae L.
ชื่อวงศ์ : Marantaceae
ลักษณะของสาคูไทย
ต้น ลำต้นใต้ดิน เรียกว่า หัว หรือ เหง้า เป็นพืชที่มีอายุอยู่ได้หลายฤดูฝน ลักษณะ ใบคล้ายใบคล้า ต้นคล้ายต้นขิง มีลักษณะคล้ายหัวลูกศร ขนาดหัวกว้างประมาณ 2.5-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 5-40 เซนติเมตร หัวหรือเหง้าหลักจะติดกับโคนต้น และแตกหัวย่อยแทงลึกลงดิน โคนหัวแตกรากแขนงจำนวนมาก หัวย่อยอาจมีหัวเดียวหรือหลายหัว มีลักษณะทรงกระบอก เรียวยาว มีลักษณะแบ่งเป็นข้อๆ และมีตาชัดเจน และมีเกล็ดสีขาวหรือสีน้ำตาลหุ้ม เนื้อหัวด้านในมีสีขาว มีเส้นใยตามแนวยาวของหัว
ใบ โคนใบใหญ่ ปลายใบแหลม แผ่นใบ และขอบใบเรียบ มองเห็นเส้นกลางใบสีเขียวชัดเจน ใบด้านล่างสุดมีขนาดใหญ่กว่าใบด้านบน แผ่นใบแบ่งออกเป็นสองข้างไม่เท่ากัน ใบอ่อนมีสีเขียวสด ใบแก่มีสีเขียวเข้ม และค่อยเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
ดอก แทงขึ้นกลางลำต้น มีดอกออกเป็นช่อแขนง ตั้งแต่ 2 ช่อ ขึ้นไป ช่อแขนงมีใบประดับรองรับ ปลายกิ่งแยกออกเป็นก้านดอก 1 คู่ และหันหน้าเข้าหากัน ก้านช่อดอกแต่ละคู่มีขนาดเล็ก ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร มีก้านดอกย่อย ยาวประมาณ 5-15 มิลลิเมตร
ผล ผลลักษณะกลม เปลือกผลแข็ง มีสีน้ำตาลอมแดง ขนาดผลประมาณ 7 มิลลิเมตร ส่วนเมล็ดมีขนาดเล็ก มีผิวหยาบ แบ่งออกเป็น 3 พู
การขยายพันธุ์ของสาคูไทย
การแยกเหง้า
ธาตุอาหารหลักที่สาคูไทยต้องการ
ประโยชน์ของสาคูไทย
- หัวสาคูนำมาต้มหรือเผารับประทาน เนื้อหัวมีรสหวานและมีเส้นใยมาก
- แป้งสาคูไทยมีขนาดเม็ดเล็ก และละเอียด เป็นแป้งที่ย่อยง่าย จึงนิยมใช้ทำเป็นอาหารทารก และผู้ป่วย
- หน่ออ่อนหรือแกนลำต้นอ่อนใช้ประกอบอาหาร อาทิ ผัด แกงเลียง หรือนำมารับประทานเป็นผักสดหรือลวกรับประทานคู่น้ำพริก
- หัวหรือหน่ออ่อนนำมาต้มหรือให้สดเป็นอาหารเลี้ยงหมู
- ใบใช้ห่อข้าว ห่ออาหาร ใช้ทำห่อหมก
สรรพคุณทางยาของสาคูไทย
- ตำรายาพื้นบ้านล้านนา ใช้เหง้าสดซึ่งมีรสขมมาก ขนาดยาว 0.5 เซนติเมตร กินเป็นยาแก้ปวดมวนท้อง (เหง้าสด)
- เมล็ดมาบด ก่อนใช้พอกรักษาอาการปวดหัว
- น้ำต้มจากหัวใช้ดื่ม แก้อาการท้องเสีย
คุณค่าทางโภชนาการของสาคูไทย
การแปรรูปของสาคูไทย
นำแป้งจากส่วนหัวหรือลำต้นมาใช้ประโยชน์สำหรับทำขนม ปัจจุบัน แป้งจากต้นสาคูไม่ค่อยนิยมแล้ว เพราะมีการนำแป้งจากแหล่งอื่นมาทดแทน ซึ่งหาง่าย และราคาถูก อาทิ แป้งมันสำปะหลัง และแป้งข้าวเจ้า เป็นต้น
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=10328&SystemType=BEDO
https:// www.kohkhan.go.th
https://www.flickr.com
https://www.youtube.com