เม่าไข่ปลา
ชื่ออื่นๆ : ขะเม่าผา, เม่าไข่ปลา, เม่าทุ่ง, มังเม่า, เม่าตาควาย, เม่าสร้อย, มะเม่าข้าวเบา
ต้นกำเนิด : ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
ชื่อสามัญ : เม่าไข่ปลา
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Antidesma ghaesembilla Gaertn
ชื่อวงศ์ : EUPHORBIACEAE
ลักษณะของเม่าไข่ปลา
ต้น เป็นไม้ยืนต้นอายุยืน แตกกิ่งก้านมาก กิ่งแขนงแตกเป็นพุ่มทรงกลม สูงประมาณ 5-10 เมตร เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดถึง 4 คนโอบ
ใบ เป็นใบเดี่ยว สีเขียวสด ผิวใบเรียบเป็นมันทั้ง 2 ด้าน ใบออกหนาแน่น เป็นร่มเงาได้ดี ดอกมีขนาดเล็กสีขาวอมเหลือง
ดอก ออกดอกเป็นช่อยาวตามปลายกิ่งและซอกใบ ช่อดอกคล้ายพริกไทย ลักษณะของดอกเป็นดอกแยกเพศ อยู่คนละต้น ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน
ผล ผลเป็นทรงกลม มีขนาดเล็กและเป็นพวง ผลดิบมีสีเขียวอ่อนหรือสีเขียวเข้ม มีรสเปรี้ยว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีแดงและม่วงดำ เมื่อสุกจะมีรสหวานอมเปรี้ยว และฝาด ผลออกเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม
เมล็ด เมล็ดกรุบกรับ ใน 1 ผลจะมี 1 เมล็ด เปลือกหุ้มเมล็ดแข็ง
การขยายพันธุ์ของเม่าไข่ปลา
ใช้เมล็ด
ธาตุอาหารหลักที่เม่าไข่ปลาต้องการ
ประโยชน์ของเม่าไข่ปลา
ผลรับประทานได้ มีรสเปรี้ยว โดยรับประทานเป็นผลไม้สดหรือแปรรูป
สรรพคุณทางยาของเม่าไข่ปลา
- ป้องกันมะเร็ง
- ชะลอความชรา
- ป้องกันโรคหัวใจล้มเหลว เป็นยาอายุวัฒนะ
- บำรุงสายตา
- แก้กษัย
- ขับโลหิต
- เป็นยาระบาย
- ขับปัสสาวะ
- แก้มดลูกพิการ
- รักษาแผล ฝีหนอง
คุณค่าทางโภชนาการของเม่าไข่ปลา
อุดมด้วยคุณค่าทางอาหารแร่ธาตุและวิตามิน เช่น แคลเซี่ยม เหล็ก วิตามิน บี 1 บี 2 วิตามินซี วิตามินอี ในปริมาณและมีคุณค่าสูง เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
การแปรรูปของเม่าไข่ปลา
การรับประทาน ผลดิบสีเขียวอ่อน ประกอบอาหารคล้ายส้มตำ ผลแก่สีแดงมีรสเปรี้ยว ส่วนผลแก่จัดสีดำม่วง จะมีรสหวานอมเปรี้ยว รับประทานเป็นผลไม้สด และนำมาแปรรูปเช่น น้ำผลไม้ ไวน์เม่า แยม กวน สีธรรมชาติผสมอาหาร เป็นต้น
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9319&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com