เถางูเขียว
ชื่ออื่นๆ : คดนกกูด (พังงา, สุราษฎร์ธานี) เครืองูเขียว (นครราชสีมา, หนองคาย)
ต้นกำเนิด : พบเกือบทุกภาค
ชื่อสามัญ : –
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Vanilla aphylla Rolfe
ชื่อวงศ์ : Epidendroideae
ลักษณะของเถางูเขียว
เถางูเขียว จัดเป็นกล้วยไม้ที่แปลก คือมีต้นลักษณะเป็นเถาเลื้อยยาวมากไม่มีใบ ต้นเป็นลำเกือบกลม หรือแบนเล็กน้อย และเป็นสี่เหลี่ยมขอบมน ผิวต้นเกลี้ยง สีเขียวเข้ม ปล้องยาวได้ถึง 50 ซม. กว้าง 0.5 – 1 ซม. รากออกที่ข้อ เห็นได้ยากในธรรมชาติ ดูกลมกลืนคล้ายเถาวัลย์ในป่า จะสังเกตุได้ง่ายคือช่วงฤดูดอกเท่านั้น ลักษณะดอกมีกลีบเลี้ยงสีขาว กลีบปากสีชมพู ที่กลีบปากมีขนฟูสวยงามมาก ดอกออกตามข้อเป็นช่อสั้น จำนวนดอกในช่อ 2 – 3 ดอก ขนาดดอกประมาณ 3 – 4 ซม. ดอกมีกลิ่นหอม
กล้วยไม้ชนิดนี้สังเกตได้ยากในธรรมชาติ นอกจากในระยะที่มีดอก
การขยายพันธุ์ของเถางูเขียว
การเพาะเมล็ด, แยกกอ, เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
ธาตุอาหารหลักที่เถางูเขียวต้องการ
ประโยชน์ของเถางูเขียว
เป็นไม้ประดับ
สรรพคุณทางยาของเถางูเขียว
–
คุณค่าทางโภชนาการของเถางูเขียว
การแปรรูปของเถางูเขียว
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=10797&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com