เล็บมือนาง
ชื่ออื่นๆ : นิ้วมือพระนารายณ์ (ภาคใต้); มือพระนารายณ์ (ตราด) เล็บมือนาง (ภาคกลาง) อ้อยช้าง (อุตรดิตถ์) แสมแดง (ชุมพร) เล็บนาว (สตูล) มะจีมั่ง, จ๊ามัง, จะมั่ง (ภาคเหนือ) นิ้วมือพระนารายณ์ (ใต้) ไท้หม่อง (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) วะดอนิ่ง, อะดอนิ่ง (มะลายู-ยะลา) และ เล็บมือนางต้น
ต้นกำเนิด : อินเดีย จีนตอนใต้ และเวียดนาม ในไทยพบทุกภาค
ชื่อสามัญ : นิ้วมือพระนารายณ์ Climbing umbrella tree
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Schefflera elliptica (Blume) Harms
ชื่อวงศ์ : ARALIACEAE
ลักษณะของเล็บมือนาง
ต้น เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์เล็บครุฑ เป็นไม้ทรงพุ่มที่ชอบเกาะอาศัยอยุ่ตามต้นไม้อื่นหรือตามซอกหิน เปลือกลำต้นเรียบเป็นสีเทาหรือสีน้ำตาล แตกกิ่งก้านสาขามากมาย
ใบ ใบประกอบแบบมีลักษณะแผ่เรียงเป็นวงกลมคล้ายนิ้วมือ ก้านใบร่วมยาว ในแต่ละก้านจะประกอบใบด้วยใบย่อยรูปรีแกมรูปขอบขนานประมาณ 5-7 ใบ แผ่นใบเรียบสีเขียวเข้มเป็นมันและค่อนข้างหนา โคนใบสอบ ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ก้านใบย่อยสั้น ใบและกิ่งอ่อนมีขนอ่อนนุ่มปกคลุมอยู่ทั่ว ขนาดความกว้างของใบมีประมาณ 2-4 ซม. ยาวประมาณ 8-15 ซม.
ดอก ออกดอกเป็นช่อรูปทรงกระบอกคล้ายซี่ร่มที่บริเวณปลายยอด เป็นช่อขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยดอกย่อยสีเหลืองขนาดเล็กมากมาย ดอกมักจะไม่ค่อยบาน มีก้านช่อดอกเป็นสีน้ำตาลแดง มีขนละเอียดปกคลุมอยู่ทั่วช่อดอก
ผล มีลักษณะเป็นรูปไข่หรือรูปทรงกลมขนาดเล็ก ผลอ่อนมีสีเขียวอมเหลือง เมื่อสุกจะกลายเป็นสีเหลืองเข้มหรือสีส้มอมแดง
การขยายพันธุ์ของเล็บมือนาง
ใช้เมล็ด
ธาตุอาหารหลักที่เล็บมือนางต้องการ
ประโยชน์ของเล็บมือนาง
- เป็นเชื้อเพลิง(จากการสัมภาษณ์และการจัดประชุมเสวนาผู้นำชุมชนท้องถิ่น)
- ผลอ่อน กินเป็นผัก
สรรพคุณทางยาของเล็บมือนาง
- แก่น ใช้เป็นยาแก้ท้องร่วง โดยนำมาฝนกับน้ำใช้รับประทาน
- กิ่ง ต้มน้ำดื่ม เพื่อรักษาโรคความดันสูง และแก้ไข้
- ราก ใช้ต้มน้ำดื่ม เพื่อรักษาโรคเบาหวาน
คุณค่าทางโภชนาการของเล็บมือนาง
การแปรรูปของเล็บมือนาง
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9281&SystemType=BEDO
https://www.dnp.go.th
https://www.flickr.com