โกงกางใบเล็ก
ชื่ออื่นๆ : โกงกาง (ระนอง) พังกาใบเล็ก (พังงา) พังกาทราย (กระบี่)
ต้นกำเนิด :
ชื่อสามัญ : –
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rhizophora apiculata BIume
ชื่อพ้อง : R. candelaria DC.
ชื่อวงศ์ : RHIZOPHORACEAE
ลักษณะของโกงกางใบเล็ก
ต้น เป็นไม้ไม่ผลัดใบขนาดกลาง-ใหญ่ สูง 20-40 เปลือกสีเทาดำผิวเปลือกเรียบแตกเป็นร่องเล็กตามยาวของลำต้น เด่นชัดกว่าร่องตามขวาง เมื่อทุบเปลือกทิ้งไว้สักครู่จะพบว่าด้านในของเปลือกเป็น สีแสดอมแดง เรือนยอดแคบรูปพีระมิด รอบๆบริเวณโคนต้นมีรากค้ำจุน ทำหน้าที่พยุงลำต้น และมักมีรากอากาศซึ่งเกิดจากกิ่งตอนบนเป็นจำนวนมาก
ใบ ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก ใบคู่ล่างๆ จะร่วงไปเหลือแต่คู่ใบ 2-4 คู่ เป็นกลุ่มที่ปลายกิ่ง รูปรี แผ่นใบหนา หูใบแคบ ปลายแหลมยาวประกบกันเป็นคู่ระหว่างคู่ใบ
ดอก ช่อดอกสั้นมาก ออกตามง่ามใบที่ใบร่วงไปแล้ว ดอกตูมรูปไข่ ใบประดับที่ฐานดอกติดกันคล้ายรูปถ้วย กลีบเลี้ยง 4 กลีบ กลีบดอก 4 กลีบ ร่วงง่าย
ผล ผลคล้ายรูปไข่กลับสีน้ำตาลคล้ำ ผิวค่อนข้างขรุขระ ลำต้นใต้ใบเลี้ยงรูปทรงกระบอก เรียวโค้งเล็กน้อย มีขนาดโตขึ้นที่ส่วนปลาย ผิวเป็นมัน สีเขียวหรือเขียวอมม่วง ค่อนข้างเรียบหรือมีตุ่มขรุขระกระจัดกระจาย
การขยายพันธุ์ของโกงกางใบเล็ก
ใช้เมล็ด
ธาตุอาหารหลักที่โกงกางใบเล็กต้องการ
ประโยชน์ของโกงกางใบเล็ก
- ใช้ทำเสาและหลักในที่น้ำทะเลขึ้นถึง มีความทนทาน
- ใช้ทำกลอนหลังคาจาก รอด ตง อกไก่ของบ้านตามชายทะเล
- ใช้ทำถ่าน
- เปลือกให้น้ำฝาดประเภท catechol ให้สีน้ำตาล ใช้ย้อมผ้า แห อวน หนัง ฯลฯ
สรรพคุณทางยาของโกงกางใบเล็ก
- น้ำจากเปลือกใช้ชะล้างแผล ห้ามเลือด แก้ท้องร่วง แก้บิด
- ใบของโกงกางเป็นสมุนไพร ไว้คลาดร้อน เครียด ปวดท้องรุนแรง แต่ควรต้มก่อน สามารถรวมกับอย่างอื่นเพื่อเปลี่ยนรสชาติได้
คุณค่าทางโภชนาการของโกงกางใบเล็ก
การแปรรูปของโกงกางใบเล็ก
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9479&SystemType=BEDO
www.flickr.com