กล้วยเสือพราน
ชื่ออื่นๆ : กล้วยเสือพราน, กล้วยหทารพราน
ต้นกำเนิด : ขึ้นริมลำธารในป่าดิบชื้น ความสูง 50-300 เมตร พบที่คาบสมุทรมลายู และภาคใต้ตอนล่างของไทยที่ยะลา และนราธิวาส
ชื่อสามัญ : Kluai Sue Phran
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Musa gracilis Holttum
ชื่อวงศ์ : MUSACEAE
ลักษณะของกล้วยเสือพราน
ต้น ไม้ล้มลุกแตกหน่อ สูง 0.5-2 ม. ลำต้นเทียมเส้นผ่านศูนย์กลาง 8-10 ซม. มีปื้นสีม่วงทั่วไป
ใบ ใบกว้าง 25-35 ซม. ยาว 90–150 ซม. ก้านใบยาว 30-70 ซม. แผ่นใบด้านล่างมีนวล เส้นกลางใบเป็นร่อง

ดอก/ปลี ช่อดอกตั้งตรง ยาวได้ถึง 1 ม. มีขนหนาแน่น ใบประดับรูปขอบขนาน สีม่วงอมชมพู ยาวได้ถึง 15 ซม. ดอกเพศเมียเรียงเป็นกระจุก 3-8 แถว แถวละ 2-4 ดอก กลีบรวมที่เชื่อมติดกันแยกจรดโคนด้านหนึ่ง ปลายจักเป็น 5 แฉก ตื้น ๆ
ผล ผลตรงสีน้ำตาลดำ คล้ายลายที่ใบ ยาวได้ถึง 10 ซม. เส้นผ่านศูนย์กลาง 2-2.5 ซม. มี 3-4 เหลี่ยม ก้านผลยาว 1-2 ซม. ผลอ่อนมีขนกระจาย เมล็ดกลมหรือรี แบน ผลเมื่อสุกเนื้อเป็นสีขาว มีขนาดเล็กมีรสชาติหวานรับประทานได้ แต่มีเนื้อน้อยและเมล็ดเยอะ จึงไม่นิยมรับประทานกัน

การขยายพันธุ์ของกล้วยเสือพราน
การแยกหน่อ
ธาตุอาหารหลักที่กล้วยเสือพรานต้องการ
ประโยชน์ของกล้วยเสือพราน
สรรพคุณทางยาของกล้วยเสือพราน
- ก้านใบ จะนำมาตำให้แหลกใช้พอกเพื่อลดอาการบวมของฝี
- ใบอ่อน คนไทยเมื่ออดีตจะนำใบอ่อนมาอังไฟพอนิ่มแล้วนำไป ใช้พอกแก้เคล็ดขัดยอก
- ผลมีสารเซอโรโทนินซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาระบาย ผลดิบมีสารกระตุ้นเซลล์เยื่อบุกระเพาะอาหารให้หลั่งสารออกมาเคลือบกระเพาะ ในผลสุกอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตถึง 22 % รวมถึงเกลือแร่ เพกติน วิตามินเอ บี และซี มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
คุณค่าทางโภชนาการของกล้วยเสือพราน
การแปรรูปของกล้วยเสือพราน
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : www.bedo.or.th, www.rprp.hwt.co.th
ภาพประกอบ : www.flickr.com, ร้านสวนยายเกด
One Comment