ฉนวน
ชื่ออื่นๆ : กระพี้ (ลำปาง) กระพี้โพรง (ราชบุรี) ฉนวน, สนวน (ภาคกลาง) ไฮปันชั้น (ลำปาง)
ต้นกำเนิด :
ชื่อสามัญ : Cha nuan
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dalbergia nigrescens Kurz.
ชื่อวงศ์ : FABACEAE
ลักษณะของฉนวน
ต้น เป็นไม้ต้นสูง 12-18 เมตร เปลือกสีเทาอ่อน แตกเป็นเกล็ดสี่เหลี่ยม

ใบ ใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียวปลายคี่ เรียงสลับ ก้านใบยาว 2-4 เซนติเมตร ใบย่อย 9-15 ใบ เรียงสลับ รูปขอบขนาน ยาว 3-6 เซนติเมตร กว้าง 2-2.2 เซนติเมตร ปลายมนหรือเว้าตื้น ฐานมน ขอบเรียบ ท้องใบมีขนสั้นนุ่มหนาแน่น

ดอก ดอกแบบช่อแยกแขนง ยาว 10-15 เซนติเมตร ออกที่ซอกใบและปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ กลีบดอกสีขาว เกสรเพศผู้ มี 9 อัน เชื่อมกันเป็นกลุ่มเดียว เกสรเพศเมีย มีรังไข่ที่มีขนสั้นนุ่ม ออกดอกมีนาคม – เมษายน

ผล ผลเป็นฝักแห้งแตกตามตะเข็บ แบน รูปขอบขนาน เมล็ด มี 3-4 เมล็ด รูปมนหรือกลม
การขยายพันธุ์ของฉนวน
พบทั่วไปในป่าเบญจพรรณป่าดงดิบแล้งทั่วไป บนความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 200 – 400 เมตร
ธาตุอาหารหลักที่ฉนวนต้องการ
ประโยชน์ของฉนวน
- ต้นใช้เลี้ยงครั่งและไม้ทำเยื่อกระดาษ
สรรพคุณของฉนวน
ส่วนที่ใช้ ราก เปลือกต้น แก่น
- ราก ป้องกันรังแค
- เปลือกต้น ผสมลำต้นตาปู ลำต้นตาเสือ ต้มน้ำดื่ม แก้คอพอก
- แก่น แก้ขี้เรื้อนใหญ่ ขี้เรื้อนกวาง และขี้เรื้อนน้ำเต้า
คุณค่าทางโภชนาการของฉนวน
การแปรรูปฉนวน
สามารถติดตามความรู้เเกี่ยวกับการเกษตร เพิ่มเติมได้ที่ เกษตรตำบล.คอม
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : www.forest.go.th, www.ananhosp.go.th
ภาพประกอบ : www.pantip.com, www.adeq.or.th
ราก เปลือกต้น แก่น ใช้ทำยาสมุนไพร
ไม้ใช้ทำเยื่อกระดาษ