ยางเหียง ชาด
ชื่ออื่นๆ : เหียง, ยางเหียง (ทั่วไป) ตาด (พิษณุโลก, จันทบุรี) สะแบง, ตะแบง, (ภาคตะวันออก) ล่าทะย่อง, ตะลาอ่ออาหมื่อ (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่) สาละอองโว, เหียงพลวง, เหียงโยน, เกาะสะเตียง (ลั๊วะ-เชียงใหม่) กุง, คร้าด (โส-นครพนม) เห่ง
ต้นกำเนิด :
ชื่อสามัญ : ยางเหียง / ชาด
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dipterocarpus obtusifolius Teijsm. ex Miq.
ชื่อวงศ์ : DIPTEROCARPACEAE
ลักษณะของยางเหียง ชาด
ต้น ไม้ต้นขนาดใหญ่ สูง 8-20 เมตร ลำต้นเปลาตรง
ใบ ใบเป็นใบเดี่ยว รูปไข่ ขนาดกว้าง 10-20 ซม. ยาว 13-25 ซม. ปลายใบมน โคนใบสอบ หรือหยักตื้นๆ เนื้อใบหนามีขนสีน้ำตาลคลุมแน่น พื้นใบจีบเป็นร่องแบบรางน้ำเส้นแขนงใบเป็นสันแข็ง ก้านใบยาว 3-5 ซม. มีขนยาวๆ สีน้ำตาลทั่วไป
ดอก ดอกสีชมพู ออกเป็นช่อเดี่ยวๆ ตามง่ามใบและตอนปลายกิ่ง กลีบรองดอกเกลี้ยง โคนเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย ปลายแยกเป็น 5 แฉก สั้น 3 แฉก ยาว 2 แฉก กลีบดอก 5 กลีบ โคนประสานติดกัน ปลายกลีบเวียนสแบบกังหัน เกสรผู้ 30 อัน อยู่ในหลอดดอก
ผล ผลกลม เกลี้ยง แข็ง สีน้ำตาลเป็นมัน ขนาดผ่าศูนย์กลาง 3 ซม. ปีกยาว 2 ปีก ขนาดกว้าง 4 ซม. ยาว 13 ซม. รูปขอบขนาน และสอบเรียวไปทางโคนมีเส้นปีก 3 เส้น


การขยายพันธุ์ของยางเหียง ชาด
ใช้เมล็ด
พบขึ้นในอินเดีย พม่า ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ในประเทศไทยพบขึ้นเป็นกลุ่มตามป่าเบญจพรรณแล้งทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ความสูง 100-1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล ออกดอกเดือนพฤศจิกายน-มกราคม ติดผลเดือนกุมภาพันธ์-มิถุนายน
ธาตุอาหารหลักที่ยางเหียง ชาดต้องการ
ประโยชน์ของยางเหียง ชาด
- ใช้ในการก่อสร้างทั่วๆ ไปได้ดี
- ทางภาคเหนือใช้ใบแก่ ห่อยาสูบและห่อของสดแทนใบกล้วย

สรรพคุณทางยาของยางเหียง ชาด
- เปลือกต้น แก้ท้องเสีย แก้บิด แก้ไข้ตาลขโมย
- ราก แก้ท้องเสีย
คุณค่าทางโภชนาการของยางเหียง / ชาด
การแปรรูปของยางเหียง / ชาด
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=12103&SystemType=BEDO
www.flickr.com
One Comment