สมุนไพรที่ควรปลูกในบ้านหรือสมุนไพรพื้นบ้านใกล้ตัวเรา เป็นผักสวนครัว สามารถปลูกทานเองได้ ปลูกง่าย โตเร็ว แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย การปลูกทานเองช่วยประหยัดเงินได้อีกด้วย หรือหากมีมากก็สามารถนำมาขายเป็นการเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งด้วย ผักที่นิยมปลูกกันมาก 10 อย่างมีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ
1. กะเพราแดง
สรรพคุณ : ใบกะเพรา มีรสเผ็ดร้อน แก้ปวดท้อง ท้องอืด แก้ลมลมจุกเสียดแน่นท้อง ขับลมทำให้เรอ เหมาสำหรับเด็ก
วิธีเตรียม : ใช้ใบกะเพราและยอด 1 กำมือ (ใบสดหนัก 25 กรัม , ใบแห้งหนัก 4 กรัม) ต้มเอาน้ำดื่ม นอกจากใช้เป็นยาแล้วใบกะเพรายังเหมาะสำหรับปรุงเป็นอาการเพื่อช่วยลดการท้องอืด ท้องเฟ้อ เช่น ต้มจืดใบกะเพรา ต้มยำน้ำใส ผัดกะเพรา
2. ขิง
สรรพคุณ : ขิงมีรสเผ็ดร้อนหวาน บรรเทาอาการท้องอืด ขับลม แน่นจุกเสียด ป้องกันและบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน จากอาการเมารถ เมาเรือ
วิธีเตรียม : ใช้เหง้าแก้สดขนาดเท่าหัวแม่มือ (ประมาณ 5 กรัม) ทุบให้แตก ต้มเอาน้ำดื่ม ขิงยังสามารถประกอบอาหารหลายชนิดทั้งคาวและหวาน เช่น ไก่ผัดขิง มันต้มขิง เต้าฮวย น้ำขิง
3. ตะไคร้
สรรพคุณ : ตะไคร้ มีรสปร่า กลิ่นหอม ขับลมในลำไส้ เจริญอาหาร ขับปัสสาวะ
วิธีเตรียม : ใช้ลำต้นและเหง้าแก่สดๆ ประมาณ 1 กำมือ (40 – 60 กรัม) ทุบพอแหลก ต้มกับน้ำประมาณครึ่งลิตร เอาน้ำดื่มต่างน้ำเมื่อมีอาการท้องอืด
4. ช้าพลู
สรรพคุณ : ใบช้าพลูมีรสเผ็ดเล็กน้อย ช่วยเจริญอาหาร ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
วิธีเตรียม : นำช้าพลูทั้งห้า (ทั้งต้นจนถึงราก) 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 3 ส่วน เคี่ยวให้เหลือ 1 ส่วน รับประทานครั้งละครึ่งแก้วกาแฟ ก่อนอาหาร 3 มื้อ ภาคใต้นิยมนำใบช้าพลูมาใช้ขับลม แก้ไอ ขับเสมหะ
5. บัวบก
สรรพคุณ : ตำรายาไทยใช้บัวบกเป็นยาแก้ไข้ ร้อนใน แก้ช้ำใน ใช้เป็นยาภายนอกรักษาแผล ทำให้แผลหายเร็ว และกล่าวว่าบัวบกมีรสเฝื่อน ขมเย็น เป็นยาขับปัสสาวะ แก้ลม แก้อ่อนเพลีย เมื่อยล้า เป็นยาบำรุงและยาอายุวัฒนะ
ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยในคนพบว่าบัวบกมีฤทธิ์รักษาความผิดปกติของหลอดเลือดดำ ช่วยให้คลายกังวล รักษาแผลที่ผิวหนัง รักษาแผลในทางเดินอาหาร
วิธีเตรียม : รักษาความผิดปกติของหลอดเลือดดำ ใช้บัวบกสด 1 กำมือ (10 – 20 กรัม) ตำแล้วคั้นเอาแต่น้ำ ดื่มน้ำละ 3 ครั้ง ติดต่อกัน 1 – 2 วัน
ใช้รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก : ใช้ใบสด 1 กำมือ (10 – 20 กรัม) ตำให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำ ทาบริเวณแผลบ่อยๆ ใช้กากพอก
บัวบกสามารถรับประทานเป็นผักสดๆ เพื่อเป็นยา โดยรับประทาน 1 – 2 ใบทุกวันเพื่อบำรุงสมอง
6. ฟ้าทะลายโจร
สรรพคุณ : ฟ้าทะลายโจรมีรสขม แก้ไข้ บรรเทาอาการเจ็บคอ บรรเทาอาการของโรคหวัด
วิธีเตรียม : ใช้สด ใบฟ้าทะลายโจรสด 3 – 5 ใบ เคี้ยวแล้วกลืน รับประทาน 3 เวลา ก่อนอาหาร
ใช้ต้ม นำใบฟ้าทะลายโจรสด ประมาณหนึ่งหยิบมือ ต้มกับน้ำสะอาด 1 แก้ว รับประทาน 3 เวลา ก่อนอาหาร สำหรับผู้ที่มีอาการ ให้ต้มจนเหลือปริมาณน้ำเพียง 1 ใน 3 แก้ว แล้วนำมารับประทาน
ข้อควรระวัง : หากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วัน แล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ยา ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์
ข้อห้าม : ในสตรีมีครรภ์ และผู้ที่แพ้ฟ้าทะลายโจร
7. มะกรูด
สรรพคุณ : มะกรูดมีรสเปรี้ยว ผิวมะกรูด แก้อาการหน้ามืด วิงเวียน น้ำมะกรูด แก้ไอ ขับเสมหะและใช้บำรุงผม
วิธีใช้ : ใช้ผิวมะกรูดหรือใบมะกรูดขยี้ หรือ ตำ พอหยาบ นำมาดมแก้วิงเวียน ศีรษะ
วิธีใช้บำรุงผม : ผลมะกรูดผ่าครึ่งลูก ปิ้งไฟให้สุก ผ่าซีกแล้วนำมาสระผม ทำให้ผมดกดำเป็นเงางาม นิ่มสลวย แก้รังแค แก้คัน
นำมะกรูดผ่าครึ่ง ต้มกับน้ำเล็กน้อย สัดส่วน น้ำ : มะกรูด คือ 2 : 1 ตั้งไฟ ต้มจนเดือดยกลง ปิดฝาทิ้งไว้ จากนั้นนำมาคั้นกรองด้วยผ้าขาวบาง นำมะกรูดที่ได้มาชโลมให้ทั่วเส้นผมและศีรษะ ใช้ทำความสะอาดเส้นผมแทนแชมพู หรือใช้เคลือบเส้นผมแทนครีมนวดก็ได้
8. มะระขี้นก
สรรพคุณ : มะระขี้นกมีรสขมจัด แก้ไข้ แก้ร้อนใน เจริญอาหาร ผลมะระอ่อน ใช้รับประทานเป็นยาเจริญอาหารโดยการต้มให้สุกรับประทานร่วมกับน้ำพริก
วิธีเตรียม : น้ำคั้นสด นำผลมะระขี้นกสด 8 – 10 ผล เอาเมล็ดในออก ใส่น้ำลงไปเล็กน้อย ปั่นคั้นเอาแต่น้ำให้ได้ครั้งละประมาณ 100 มิลลิลิตร (หรือรับประทานทั้งกากก็ได้) รับประทานวันละ 3 เวลา ก่อนอาหารทุกวัน
ชาชง : นำผลมะระขี้นกสดเผาเอาแต่เนื้อหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตากแดดให้แห้ง แล้วเอามาชงกับน้ำเดือดโดยใช้มะระแห้งครั้งละ 1 – 2 ชิ้น ต่อน้ำ 1 ถ้วย ชงดื่มเป็นน้ำชา ดื่มครั้งละ 2 ถ้วยชา วันละ 3 เวลา หรือจะต้มเอาน้ำดื่มก็ได้
มะระขี้นกเป็นผักพื้นบ้านที่นิยมนำมาลวกจิ้มกับน้ำพริก ร่วมกับผักอื่น หรือนำไปแกงแทนมะระจีน นอกจากผลของมะระขี้นกแล้ว ภาคใต้นิยมนำใบหรือยอดมาลวก หรือต้มกะทิ
ผลสุกสีเหลืองห้ามรับประทาน เพราะทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียน
9. ว่านหางจระเข้
สรรพคุณ : วุ้นของว่านหางจระเข้ มีรสเย็นจืด รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
วิธีเตรียม : ใช้วุ้นจากใบโดยเลือกที่อยู่ล่างสุดของต้น ปอกเปลือกสีเขียวออก ล้างยางให้สะอาดด้วยน้ำต้มสุกหรือน้ำด่างทับทิม ขูดเอาวุ้นใสมาพอกบริเวณแผลให้ชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลาในชั่วโมงแรก จากนั้นทาวันละ 3 – 4 ครั้ง จนแผลหาย ช่วยทำให้แผลหายเร็ว และลดการเกิดแผลเป็น
10. สะระแหน่
สรรพคุณ : บรรเทาอาการวิงเวียน หน้ามืด ขับลม
วิธีเตรียม : นำมาปรุงรสอาหารไทยจำพวกยำ ลาบ ต้มยำ นำไปแต่งหน้าเครื่องดื่มบางชนิด และใช้เป็นส่วนผสมของไอศกรีมได้
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : https:// thainews.prd.go.th
https://www.flickr.com
2 Comments