ผักกาดขาวปลี
ผักกาดขาวปลี (Chinese Cabbage) เป็นผักที่ปลูกกันมากในประเทศจีนตอนใต้ ไต้หวันและในประเทศ ผักกาดขาวปลี นับเป็นผักที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจชนิดหนึ่งของประเทศไทย เนื่องจากมีผู้นิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลายส่วนที่ใช้บริโภคได้แก่ ส่วนใบ รับประทานเป็นผักสดหรือใช้ประกอบอาหารอื่นๆ

สภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม
ผักกาดขาวปลีเป็นผักที่มีอายุปีเดียว สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี แต่ปลูกได้ดีที่สุดในช่วงเดือน ตุลาคม-กุมภาพันธ์ ขึ้นได้ในดินเกือบทุกชนิด ชอบดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีความเป็นกรด ด่าง (pH) ของดินอยู่ในช่วงพอเหมาะประมาณ 6-6.8 อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 25-20องศา เซลเซียส และควรได้รับแสงแดดตลอดวัน
พันธุ์
พันธุ์ผักกาดขาวปลี แบ่งตามลักษณะของปลีได้เป็น 3 พวกใหญ่ๆ คือ
- พันธุ์ปลียาว มีลักษณะทรงสูง รูปไขสูง รูปไข่ ได้แก่ พันธุ์มิชิลีหรือผักกาดหางหงษ์, ผักกาดโสภณ, ผักกาดขาวปลีฝรั่ง
- พันธุ์ปลีกลม ลักษณะทรงสั้นกว่า อ้วนกลมกว่า เช่น พันธุ์ซาลาเดียไฮบริด, พันธุ์ทรงบิค คอล ไพรด์ ไอบริด ฯลฯ มักเป็นพันธุ์เบาอายุสั้น
- พันธุ์ปลีหลวม หรือไม่ห่อปลี ส่วนใหญ่เป็นผักพื้นเมืองของเอเซีย พวกนี้มักไม่ห่อปลี ปลูกได้แม้อากาศไม่หนาวฝนตกชุก ได้แก่ พันธุ์ผักกาดขาวใหญ่ (อายุ 45 วัน) ผักกาดขาวธรรมดา (อายุ 40 วัน) ความอร่อยน่ากินและเก็บรักษาได้นานสู้ผักกาดขาวพวกเข้าปลีไม่ได้ ทําให้ปริมาณใน ปัจจุบันลดลง
พันธุ์ผักกาดขาวปลีที่เกษตรกรนิยมใช้
- ตราดอกโบตั๋น
- ตราช้าง
- ตราเครื่องบิน
- ตราเครื่องบินพิเศษ
- พันธุ์เทียนจิน
- พันธุ์เทียนจินเบอร์ จินเบอร์ 23 (เป็นพันธุ์ทนร้อนปานกลาง)
การเตรียมดิน
- แปลงเพาะกล้า ควรไถดินให้ดี ตากไว้ 5-7 วัน หลังจากนั้นก็คลุกเคล้าด้วยปุ๋ย คอกหรือปุ๋ยหมัก ที่สลายตัวดีแล้ว ให้มากพรวนย่อยดินให้ละเอียด โดยเฉพาะผิวหน้าดินเพื่อป้องกัน มิให้เมล็ดซึ่งมีขนาดเล็กตกในดินลึก เกินไปเมื่อปลูกโดยใช้วิธีหว่าน
- แปลงปลูก ผักกาดขาวปลี สามารถปลูกได้ในดินทั่วไป แต่ดินที่เหมาะสมที่สุด คือ ดินร่วน ในดินเหนียว ก็สามารถปลูกได้ แต่ต้องทำให้ดิน สามารถระบายน้ำได้โดยการไถ หรือขุดดินให้ลึก ประมาณ 30 เซนติเมตร และตากดินให้แห้งประมาณ 7-10 วัน จึงจำการย่อยพรวนให้ละเอียด ใส่ปุ๋ยคอกลงคลุก เคล้า ถ้าเป็นดินเปรี้ยวหรือดินเค็ม ควรใสปูนขาวอัตราประมาณ 40 ก.ก./ ไร่ ถ้าดินเป็นดินทราย ควรใส่ปุ๋ย คอกให้มากขึ้น อัตราที่ใช้ประมาณ 2 ปี๊บ/1 ตารางเมตร หรือถ้าใช้ปุ๋ยขี้เป็ด, ไก่, หมู ก็ลดประมาณการใส่ลงมาเหลือตารางเมตรละ 1 ปี๊บ ก็พอควรคลุกเคล้าให้เข้ากัน
การปลูก
การปลูกผักกาดขาวปลี มีวิธีการปลูกได้ 2 วิธี โดยจะเลือกใช้วิธีใดก็แล้วแต่ความสะดวก และเหมาะสมดังนี้
- ปลูกแบบหว่านโดยตรง
โดยการหว่านเมล็ดพันธุ์ให้กระจายทั้งแปลง ซึ่ง การปลูกวิธีนี้ เหมาะสำหรับเมล็ดพันธุ์ที่มีราคาไม่แพง โดยเฉพาะในท้องที่ภาคกลางที่ยกแปลงกว้าง มีร่องน้ำการหว่านควรหว่านให้เมล็ด กระจายสม่ำเสมอ โดยทั่วไปจะผสมพวกทราย หรือเมล็ดผักที่เสื่อมคุณภาพแล้ว มีขนาดพอ ๆ กันลงไปด้วยเพื่อให้กระจายสม่ำเสมอดียิ่งขึ้น ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักหว่านทับลงไปหนาประมาณ 0.5-1.0 เซนติเมตรเพื่อ ช่วยรักษาความชื้น เสร็จแล้วคลุมฟางแห้งสะอาดอีกชั้นหนึ่ง ราดน้ำด้วยบัวละเอียดให้ทั่วแปลง หลังจากต้นกล้างอกและมีใบจริง 1-2 ใบ เริ่มถอนแยกเพื่อจัดระยะปลูกให้ได้ระยะระหว่าง ต้นและระหว่างแถวประมาณ 50×50 เซนติเมตร - การปลูกแบบเป็นแถวหรือหยอดเป็นหลุม
หยอดให้เมล็ดเป็นแถวบนแปลงปลูก โดยให้ระยะระหว่างแถวห่างกัน เซนติเมตร ลึกประมาณ 0.5-10.0 เซนติเมตร หรือทําเป็นหลุมตื้นๆ หยอดเมล็ดลงประมาณ 3-5 เมล็ด กลบดินหนา 0.5 เซนติเมตรเมื่อต้นกล้าเริ่มมีใบจริง 2 ใบให้ทําการถอนแยกให้เหลือหลุมละ 1 ต้นและถอนแยกครั้งสุดท้ายอายุไม่เกิน 30 วัน

การเพาะและการย้ายกล้า
- ให้หว่านเมล็ดให้ถั่วพื้น แปลงแล้วกลบด้วยปุ๋ย คอก หรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้วหนา 0.5- 1.0 เซนติเมตร
- หรืออาจหยอดเมล็ดเป็นแถวห่างกันแถวละ 5-10 เซนติเมตร ลึก 0.5-1 เซนติเมตร เมล็ด ควรโรยให้ห่างกันพอสมควร แล้วกลบด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกที่สลายตัวแล้ว แล้วรดน้ำให้ทั่วแปลงโดย ใชบัวละเอียด คลุมแปลงด้วยหญ้าแห้ง หรือฟางสะอาด ๆ บางๆ ช่วยเก็บรักษาความชื้นในดินและป้อง กันการกระแทกของนํ้าต่อต้นกล้าที่ยังเล็กอยู่ การย้ายกล้าควรย้ายกันตอนบ่ายๆ ถึงเย็นหรือช่วงที่อากาศมืดครึ้ม ย้ายปลูกเมื่อมีอายุ 30-35 วัน
การปฏิบัติดูแลรักษา
- การใส่ปุ๋ย
เนื่องจากผักกาดขาวปลีเป็นผักกินใบ ควรให้ปุ๋ยที่มีสัดส่วนเป็น 2:1:1 เช่น ปุ๋ยสูตร 20-110- 10 หรือสูตรใกล้เคียงนี้ในอัตราประมาณ 80-150 กก./ไร่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน โดยการแบ่งใส่ 2 ครั้ง คือครั้งแรกใส่เป็นปุ๋ยรองพื้นจำนวนครึ่งหนึ่ง โดยใส่ตอนปลูกครั้งที่สองใส่เมื่อผักกาดอายุ 20 วัน โดยโรยข้างต้นแล้วรดน้ำ สำหรับพวกพันธุ์ปลียาวและปลีกลมแน่น ควรให้ปุ๋ย ไนโตรเจน เช่น ยูเรียหรือแอมโมเนียไนเตรทในอัตรา 20-30 ก.ก./ไร่ เมื่อกล้าอายุได้ 30-40 วัน โดย การหว่านหรือโรยข้างต้นก็ได้ แล้วรดน้ำตามทันที ระวังอย่าให้ปุ๋ยค้างที่ใบเพราะทำให้ใบไหม้ - การให้น้ำ
ผักกาดขาวปลีต้องการน้ำมากและสม่ำเสมอ เพื่อใช้ในการเจริญเติบโตตลอดฤดูปลูก ดังนั้น ควรให้น้ำอย่างเพียงพอโดยเฉพาะในระยะเข้าปลี - การพรวนดินและกําจัดวัชพืช
ควรปฏิบัติหลังการย้ายกล้า 2 สัปดาห์ พร้อมกับใส่ปุ๋ยและทำการพรวนประกมาณ 2-3 ครั้ง
การเก็บเกี่ยว
อายุการเก็บเกี่ยวผักกาดขาวปลีไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับลักษณะพันธุ์
- พันธุ์เข้าปลีไม่แน่น
อายุที่เก็บเกี่ยวได้ประมาณ 40-50 วัน หลังจากว่านเมล็ด โดย เลือกเก็บเกี่ยวต้นเริ่มแก่เต็มที่ได้ขนาด (ในท้องถิ่นทางภาคกลาง) - พันธุ์ที่เข้าปลียาวหรือปลีกลมแน่น
อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 50-80 วัน หลังจากหยอดเมล็ดที่เก็บเกี่ยวได้ โดยเก็บขณะที่ปลีห่อแน่นเต็มที่ ก่อนที่ปลีจะเริ่มคลายตัวหลวมออก (ในท้องถิ่นภาคเหนือ) การตัดใช้มีดคมตัดที่โคนต้น ตัดแต่งใบที่เป็นโรคถูกแมลงทำลายออกบ้างพอสมควร แต่ไม่มากนัก ควรเก็บใบนอกๆ ไว้สัก 2-3 ใบ เพื่อป้องกันการกระทบกระแทกในระหว่างการขนส่ง

ราคาขาย
ราคาขายตลาดสี่มุมเมือง ณ วันที่ 8 มีนาคม 2565
- ผักกาดขาวเบา (ใหญ่สวย) ราคากิโลกรัมละ 18 บาท
- ผักกาดขาว(ลุ้ย)จีน (ใหญ่สวย) ราคากิโลกรัมละ 18 บาท
- ผักกาดขาว(ลุ้ย) (ใหญ่สวย) ราคากิโลกรัมละ 14 บาท / ผักกาดขาว(ลุ้ย) (เล็กสวย) ราคากิโลกรัมละ 12 บาท
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ :
http://www.eto.ku.ac.th
https://www.simummuangmarket.com
https://www.flickr.com
One Comment