กล้วยกล้าย
ชื่ออื่นๆ : กล้วยหมอนทอง, กล้วยโกก, กล้วยยักษ์
ต้นกำเนิด : เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, เอเชียใต้
ชื่อสามัญ : Plantain
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Musa acuminata
ชื่อวงศ์ : MUSACEAE
ลักษณะของกล้วยกล้าย
ต้น ลำต้นเทียมสูง 3.5-4 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้นเทียมมากกว่า 15 เซนติเมตร กาบลำต้นด้านนอกสีชมพูแดง มีปื้นดำค่อนข้างมาก ด้านในสีเขียวอ่อน มีเส้นสีชมพุ
ใบ ก้านใบมีประดำเล็กน้อย มีร่องค่อนข้างแคบ มีปีก สีชมพูอ่อน
ดอก ช่อดอกประกอบด้วยดอกตัวเมีย ซึ่งมีดอกตัวผู้เป็นหัน ไม่มีดอกตัวผู้หรือดอกกะเทย เมื่อดอกเป็นผลจึงไม่มีปลีเหลืออยู่ ก้านปลีไม่มีขน
ผล เครือหนึ่งมี 1-2 ช่อหรือหวี หนึ่งหวีมีผล 6-7 ผล เครือหนึ่งมี 12-13 ผล ผลยาวประมาณ 36 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางยาวประมาณ 36 เซนติเมตร เรียงไม่เป็นระเบียบเช่นกล้วยชนิดอื่นๆ ก้านผลสั้น โค้งงอ มีเหลี่ยม เปลือกค่อนข้าวงหนา เมื่อสุกมีสีเหลือง เหมือนกล้วยน้ำว้า เนื้อสีส้ม รสหวาน ไม่มีเมล็ด
การขยายพันธุ์ของกล้วยกล้าย
ขยายพันธุ์ด้วยหน่อ
การปลูกเลี้ยง ขุดหลุมขนาด 30x30x30 เซนติเมตร วางหน่อลงปลูกกลางหลุม กลบดินโดยรอบให้แน่น หลังปลูก 1 เดือนให้ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 จากนั้นให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 สลับกับปุ๋ยอินทรีย์ทุก 3 เดือน
ธาตุอาหารหลักที่กล้วยกล้ายต้องการ
ประโยชน์ของกล้วยกล้าย
ส่วนใหญ่ไม่รับประทานผลสด เพราะมีเนื้อเหนียวและไส้แข็ง ไม่หวาน มักจะทำให้สุก เช่น ต้ม เผา จะทำให้รสหวานขึ้น
สรรพคุณทางยาของกล้วยกล้าย
คุณค่าทางโภชนาการของกล้วยกล้าย
กล้วยกล้ายให้พลังงานประมาณ 220 แคลอรี มีโพแทสเซียมและใยอาหารสูง
การแปรรูปของกล้วยกล้าย
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=10249&SystemType=BEDO
www.th.wikipedia.org
www.flickr.com
3 Comments