กล้วยนมสาว
ชื่ออื่นๆ : กล้วยงาหมู หรือ กล้วยนมสาว, กล้วยน้ำญิ่ปุ่น, ทองกำปั้น, นมสาวหาดใหญ่
ต้นกำเนิด : มีมากในจังหวัดทางภาคใต้และพรมแดนไทยพม่าทางภาคตะวันตก เช่น จังหวัดสงขลา กระบี่ เพชรบุรี ราชบุรี
ชื่อสามัญ :
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Musa Xparadisiaca ‘Kluai Nom Sao’ Musa (AAB group)
ชื่อวงศ์ : MUSACEAE
ลักษณะของกล้วยนมสาว
ต้น ลำต้นสูง 2.5 – 3.5 เมตร กาบด้านนอกสีเขียวเจือน้ำตาลตอนล่างมีประน้ำตาลเข้ม มีปื้นสีดำ ตอนบนขึ้นไปมีสีเขียวนวล กาบลำต้นด้านในสีเขียวเจือชมพู หน่อเกิดชิดลำต้นจำนวน 8-10 หน่อ
ใบ หางใบยาว แป่นใบกว้างลู่ลงเล็กน้อย ใบค่อนข้างบางสีเขียวสด ร่องใบกว้าง ขอบก้านสีชมพูแดง ก้านใบสีเขียวนวลโคนก้านใบมีประน้ำตาล
ดอก ปลีรูปทรงกระบอกปลายแหลมชี้ลงดิน กาบด้านนอกสีแดงเจือเขียว กาบด้านในสีซีด เมื่อบานกาบปลีเปิดม้วนขึ้นเห็นผลกล้วยสีเขียวอ่อน กาบปลีจะค้างอยู่บนหวีกล้วย 2-3 วัน จึงจะแห้งหลุดไป หลังติดผลหวีสุดท้ายแล้ว ปลีจะมีรูปร่างป้อมขึ้น
ผล ใน 1 เครือจะมี 6-7 หวี หวีหนึ่งมี 10 -12 ผล ผลมีลักษณะอ้วนป้อม ปลายผลมีจุกใหญ่งอนขึ้น ผลดิบสีเขียวสดเป็นมัน เปลือกหนาผลสีเหลืองจัด เนื้อสีครีมอมส้มค่อนข้างแข็ง รสหวาน กลิ่นหอมเฉพาะตัวคล้ายกล้วยหอมผสมกล้วยไข่
การขยายพันธุ์ของกล้วยนมสาว
การแยกหน่อ, การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
กล้วยชนิดนี้ หากปลูกด้วยหน่อถึงออกปลีใช้เวลาประมาณ 8 เดือน และหลังจากออกปลีถึงผลแก่จัด 90 วัน ส่วนการปลูกเพียงขุดหลุมขนาด 30x30x30 เซนติเมตร วางหน่อลงปลูกในหลุม จากนั้นกลบดินโดยรอบให้แน่น หลังปลูก 1 เดือน อาจใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 จากนั้นเสริมด้วยปุ๋ยสูตร 15-15-15 สลับกับปุ๋ยอินทรีย์
ธาตุอาหารหลักที่กล้วยนมสาวต้องการ
ประโยชน์ของกล้วยนมสาว
- ผลใช้รับประทานสด
- กล้วยนมสาว พันธุ์กล้วยโบราณ
สรรพคุณทางยาของกล้วยนมสาว
สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ *สรรพคุณของกล้วย*
คุณค่าทางโภชนาการของกล้วยนมสาว
การแปรรูปของกล้วยนมสาว
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : www.scitech.kpru.ac.th, www.acc.kpru.ac.th
ภาพประกอบ : www.youtube.com, www.pantip.com
2 Comments