กะหล่ำปลี
ชื่ออื่นๆ : กะหล่ำปลี (ทั่วไป), กะหล่ำใบ
ต้นกำเนิด :
ชื่อสามัญ : Cabbage, Common Cabbage, White Cabbage, Red Cabbage
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Brassica oleracea L. var. capitata L.
ชื่อวงศ์ : BRASSICACEAE (CRUCIFERAE)
ลักษณะของกะหล่ำปลี
ต้น เป็นพืชล้มลุกอายุฤดูเดียว ลำต้นมีลักษณะทรงกลม สูงประมาณ สูงประมาณ 25-45 เซนติเมตร เปลือกลำต้นมีสีขาว มีลักษณะเป็นข้อๆที่เกิดจากรอยแผลใบ ส่วนระบบรากกะหล่ำปลีประกอบด้วยรากแก้ว และมีรากแขนงแตกออกด้านข้าง และรากฝอยบริเวณปลายราก รากแขนงสามารถหยั่งลึกได้มากกว่าถึง 30 เซนติเมตร มีลักษณะแตกออกด้านข้าง
ใบ ใบกะหล่ำปลีมีหลายสีขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ เป็นส่วนที่นำมาบริโภค ใบจะแตกออกด้านข้างลำต้น เรียงวนรอบลำต้น ผิวใบมีลักษณะเรียบ แต่เป็นลูกคลื่น ขอบใบย่น ใบโค้งงอเข้าตรงกลาง หุ้มซ้อนกันแน่น เรียกว่า หัวกะหล่ำปลี ที่มีลักษณะกลม ค่อนข้างแบน กะหล่ำปลี 1 ต้น จะมีใบห่อหุ้มประมาณ 20-40 ใบ หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับขนาดหัว ใบจะหุ้มลำต้นอัดกันแน่น แต่ละหัวหนักประมาณ 0.8-2 กิโลกรัม
ดอก กะหล่ำปลีออกดอกเป็นช่อ เป็นดอกสมบูรณ์เพศที่มีเกสรตัวผู้ และเกสรตัวเมียในดอกเดียวกัน ช่อดอกแทงออกตรงกลางของหัว มีก้านดอกชูยาว 30-80 ซม. ประกอบด้วยกลีบรองดอกสีเขียว 4 อัน ถัดมาด้านในเป็นกลีบดอก มีสีเหลืองสด จำนวน 4 กลีบ ด้านในสุดมีเกสรตัวผู้ 6 อัน ประกอบด้วยเกสรชั้นใน 4 อัน และชั้นนอก 2 อัน และตรงกลางมียอดเกสรตัวเมียที่เป็นลักษณะพู 2 อัน ซึ่งเชื่อมมายังรังไข่ ซึ่งอยู่ด้านในสุดของฐานดอก ทั้งนี้ ดอกกะหล่ำปลีจะทยอยบานจากด้านล่างขึ้นด้านบน
ผล ผลกะหล่ำปลี เรียกว่า ฝัก มีลักษณะเรียวยาว ปลายฝักแหลม เปลือกฝักมีร่องเป็นรอยตะเข็บสองข้าง ซึ่งจะปริแตกออกเมื่อฝักแห้ง ด้านในประกอบด้วยเมล็ดขนาดเล็กเรียงซ้อนกันเป็นแถว มีลักษณะกลม เมล็ดอ่อนมีสีเขียว และแก่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม และแก่เต็มที่มีสีดำ เปลือกเมล็ดบาง ขนาดเมล็ดประมาณ 1.6 มิลลิเมตร ฝักหนึ่งจะมีเมล็ดประมาณ 10-20 เมล็ด
![ต้นกะหล่ำปลี](https://www.kasettambon.com/wp-content/uploads/2016/08/15679545683_f4b0c83009_w.jpg)
การขยายพันธุ์ของกะหล่ำปลี
ใช้เมล็ด
ธาตุอาหารหลักที่กะหล่ำปลีต้องการ
สามารถขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิด ชอบดินโปร่ง อุณหภูมิที่ เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตประมาณ 22-25 องศาเซลเซียส มีสภาพความ เป็นกรดเป็นด่างของดิน (pH) อยู่ในช่วง 6-6.5 ความชื้นในดินสูงพอสมควร และได้รับแสงแดดเต็มที่ตลอดวัน
ประโยชน์ของกะหล่ำปลี
ใบกินได้
สรรพคุณทางยาของกะหล่ำปลี
นักวิจัยศึกษาพบว่า สารกลูทามีนในกะหล่ำปลีช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร ช่วยบรรเทาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ อีกทั้งยังมีสารซัลเฟอร์ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่ ทำให้การขับถ่ายดี ไม่เพียงเท่านั้น สารซัลเฟอร์ยังช่วยลดระดับคอเลสเทอรอล ระงับประสาท ทำให้นอนหลับได้ง่ายอีกด้วย
![กะหล่ำปลี](https://www.kasettambon.com/wp-content/uploads/2016/08/6084987877_00997e296c_w.jpg)
คุณค่าทางโภชนาการของกะหล่ำปลี
คุณค่าทางโภชนาการของกะหล่ำปลีดิบต่อ 100 กรัม พลังงาน 25 กิโลแคลอรี คาร์โบไฮเดรต 5.8 กรัม
น้ำตาล 3.2 กรัม
เส้นใย 2.5 กรัม
ไขมัน 0.1 กรัม
โปรตีน 1.28 กรัม
วิตามินบี1 0.061 มิลลิกรัม 5%
วิตามินบี2 0.040 มิลลิกรัม 3%
วิตามินบี3 0.234 มิลลิกรัม 2%
วิตามินบี5 0.212 มิลลิกรัม 4%
วิตามินบี6 0.124 มิลลิกรัม 10%
วิตามินบี9 43 ไมโครกรัม 11%
กะหล่ำปลีวิตามินซี 36.6 มิลลิกรัม44%
าตุแคลเซียม 14 มิลลิกรัม 1%
ธาตุเหล็ก 40 มิลลิกรัม 4%
ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
ธาตุแมงกานีส 0.16 มิลลิกรัม 8%
ธาตุฟอสฟอรัส 26 มิลลิกรัม 4%
ธาตุโพแทสเซียม 170 มิลลิกรัม 4%
ธาตุโซเดียม 18 มิลลิกรัม 1%
ธาตุสังกะสี 0.18 มิลลิกรัม 2%
ฟลูออไรด์ 1 ไมโครกรัม
การแปรรูปของกะหล่ำปลี
กะหล่ำปลี สามารถนำมารับทานเป็นผักสด ทานกับน้ำพริก ส้มตำ นึ่ง ลวก ทานคู่กับน้ำพริก หรือจะนำไปปรุงเป็นเมนูอาหารก็ได้หลายประเภท เช่น ต้มจืด ต้มจับฉ่าย ผัดใส่ไข่ กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา ไข่ตุ๋นกะหล่ำปลี ฯลฯ
![กะหล่ำปลีผัดไข่](https://www.kasettambon.com/wp-content/uploads/2016/08/11698828756_2d67c9d3b9_w.jpg)
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http:// www.rspg.or.th
https:// adeq.or.th
https://www.flickr.com
14 Comments