การปลูกผักกาดเขียวปลี สามารถปลูกได้ตลอดปี

ผักกาดเขียวปลี

ผักกาดเขียวปลี เป็นพืชในตระกูลกะหล่ำปลี กะหล่ำดอกและคะน้า เป็นผักอายุปีเดียว อายุการเก็บเกี่ยว 55-75 วัน ก้านและใบสีเขียว อ่อนกรอบ โคนก้านยึดติดกับรากและพื้นดิน ปลีสีเขียวอ่อนมีใบอ่อนหุ้มอยู่โดยรอบ สามารถปลูกได้ตลอดปี ในประเทศไทยจะปลูกมากในเขตภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะ ในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน นครราชสีมา และในเขตภาคตะวันตก คือ กาญจนบุรี ผักกาดเขียวปลีเป็นผักที่ไม่นิยมบริโภคสด จะนิยมนำมาดอง ในระยะแรกจะเป็นการดองในระดับครอบครัว แต่ต่อมาความต้องการในตลาดสูงขึ้น มีการส่งออกไปจําหน่ายยังตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเทคนิคในการดองไม่ซับซ้อน อุตสาหกรรมการดองผักกาดเขียวปลีจึงมีการขยายตัว ทําให้เกษตรกรเพิ่มพื้นที่ปลูกมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเกษตรกรควรจะมีแหล่งจําหน่ายผลผลิตที่แน่นอนเสียก่อน ที่จะทําการปลูกผักกาดเขียวปลีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

ผักกาดเขียวปลีสามารถขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิด แต่ที่เหมาะสมที่สุดคือ ดินร่วนซุย โดยเฉพาะอย่างยิ่งดินนํ้าไหลทรายมูลสภาพของดินเป็นกลาง แปลงปลูกควรได้รับแสงแดดเต็มที่ ส่วนอุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 15-20 องศาเซลเซียส

ผักกาดเขียวปลี
ผักกาดเขียวปลี ใบสีเขียวอ่อนจนถึงสีเขียวเข้ม

พันธุ์

แบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

  1. พันธุ์ปลีกลม มีลักษณะใบกว้างหนา นํ้าหนักผลผลิตต่อไร่สูง แต่มักเกิดอาการปลีแตก
  2. พันธุ์ปลีแหลม มีลักษณะหัวปลีแหลม น้ำหนักผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่าพันธุ์ปลีกลม แต่ไม่ค่อยเกิดอาการปลีแตก

สำหรับพันธุ์ผักกาดเขียวปลีที่มีจำหน่ายในประเทศไทยมีหลายพันธุ์ แต่ที่นิยมในตลาดมีดังนี้

  1. บลูซนิ ให้ปลีขนาดใหญ่เหมาะสมสําหรับปรุงอาหาร และดองอายุเก็บเกี่ยว 95-100 วัน ฤดูปลูกที่เหมาะสมจะอยู่ในช่วงเดือนกันยายน-มกราคม เหมาะสําหรับปลูกในภาคเหนือและภาค ตะวันออกเฉียงเหนือบางจังหวัด เช่น เลย
  2. กู๊ดเวอร์ เป็นพันธุ์ที่เหมาะสําหรับการดองอายุเก็บเกี่ยว 50-55 วัน ปลูกได้ตลอดปี และทุกภาพ 
  3. แม็ค ให้ปลีขนาดใหญ่ เหมาะสําหรับการดองอายุเก็บเกี่ยวประมาณ 50-55 วัน ปลูก ได้ตลอดปีและทุกภาพ

การเตรียมเมล็ดพันธุ์

ผักกาดเขียวปลีใช้เมล็ดในการขยายพันธุ์ ซึ่งจํานวนเมล็ดที่ใช้ต่อพื้นที่ 1 ไร่ จะแตกต่างกันคือ

  1. ใช้หว่านโดยตรงในแปลงปลูก อัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 1-2 กิโลกรัม
  2. ใช้หยอดหลุมหรือโรยเป็นแถวในแปลงปลูก อัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 350-400 กรัม
  3. ใช้วิธีเพาะกล้าแล้วย้ายลงแปลงปลูกอัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ 35-40 กรัม

เมล็ดพันธุ์น้ำหนัก 1 กรัม จะมีจานวนเมล็ดประมาณ 700 เมล็ด ก่อนเพาะเมล็ดควรนําไปแช่น้ำอุณหภูมิประมาณ 50 องศาเซลเซียส (ใช้น้ำร้อนผสมกับนํ้าเย็น อัตราส่วน 1:1) แช่ไว้นานประมาณ 30 นาที

การเตรียมดิน

  1. แปลงเพาะกล้า ย่อยดินให้ละเอียดคลุกเคล้าปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวแล้ว ทําร่องลึกประมาณ 1 เซนติเมตร โรยเมล็ดเป็นแถว แล้วกลบด้วยดินผสมบางๆ รดนํ้าด้วยฝอยละเอียดคลุมด้วยหญ้าแห้งหรือฟาง แต่เนื่องจากกล้าผักกาดเขียวปลีค่อนข้างอ่อนแอ จึงควรย้ายลงถุงเพาะชำครั้งหนึ่งก่อนเมื่อ อายุ 20-25 วัน แล้วจึงย้ายกล้าลงแปลงปลูก เมื่ออายุ 30-35 วัน 
  2. แปลงปลูกผักกาดเขียวปลีควรขุดไถดินลึกประมาณ 15-20 ซม. ตากดินประมาณ 5-7 วัน ใส่ปุ๋ยอินทรีย์เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักที่สลายตัวแล้วประมาณ 2-3 ตัน/ไร่ พรวนย่อยชั้นหน้าดินให้ ละเอียดถ้าดินเป็นกรดควรปรับโดยการใสปูนขาว

การปลูก

มี 3 วิธี คือ

  1. การปลูกแบบหว่าน นําเมล็ดไปหว่านให้ทั่วแปลงที่ได้เตรียมดินไว้แล้ว จากนั้นใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้วหว่านโรยทับลงไปหนาประมาณ 0.5-0.8 ซม. คลุมทับด้วยฟางหรือหญ้าแห้งบางๆ รดน้ำด้วยฝอยละเอียด เมื่อ มีใบจริง 3-4 ใบ ให้ถอนต้นที่ไม่สมบูรณ์เบียดชิดกันออกทิ้งควรให้ได้ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 50×50 ซม.
  2. การปลูกแบบหยอดเมล็ด ทําได้ทั้งโรยเมล็ดเป็นแถวและหยอดเมล็ดเป็นหลุม โดยมีระยะ ห่างระหว่างแถวต้น 50×50 ซม. หยอดเมล็ดหลุมละประมาณ 3-5 เมล็ด กลบด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้ว รดนํ้าด้วยฝอยละเอียด ใช้ฟางหรือหญ้าแห้งคลุมบางๆ เริ่มถอนแยกเมื่อ ต้นกล้ามีใบจริง 1-2 ใบ จนถึง 3-4 ใบให้เหลือหลุมละ 1 ต้น
  3. การปลูกแบบเพาะกล้า การปลูกโดยวิธีจะประหยักเมล็ดพันธุ์ได้มากกว่า 2 วิธีแรกที่กล่าว มา โดยเฉพาะในการใช้เมล็ดพันธุ์ที่มีราคาแพง มักทําในแปลงที่มีขนาดใหญ่ และต้องการผักที่มี คุณภาพสูง โดยการหว่านหรือโรยเมล็ดเป็นแถวในแปลงกล้าที่ได้เตรียมไว้แล้ว แต่เนื่องจากกล้าผักกาดเขียวปลีค่อนข้างอ่อนแอ ควรย้ายลงถุงเพาะชํา เมื่ออายุได้ 20 วัน แล้วย้ายปลูก เมื่ออายุได้ 30 วัน
การปลูกผักกาดเขียวปลี
การปลูกผักกาดเขียวปลีในแปลงปลูก

การดูแลรักษา

  1. การให้ปุ๋ย สัดส่วนใส่ปุ๋ยที่จะใช้กับผักกาดเขียวปลีควรประกอบด้วยไนโตรเจน 1.5-2 ส่วน ฟอสฟอรัส 1 ส่วน และโปตัสเซี่ยม 1.5-2 ส่วน เช่น ปุ๋ยสูตร 14-14-21 หรือ 13-13-21 ร่วมกับ ปุ๋ยไนโตรเจน เช่น ยูเรีย โดยใส่เป็นปุ๋ย รองพื้น  ปริมาณ 50-150 กก./ไร่ ขึ้น กับความอุดมสมบูรณ์ของดินและใส่ปุ๋ยเสริมคือปุ๋ยไนโตรเจน 2 ครั้ง อัตรา 20-25 กก./ไร่ เมื่อ ผักกาดเขียวปลีมีอายุ 14และ 30 วัน ตามลําดับ นอกจากนี้แล้วควรให้ธาตุอาหารที่จําเป็นแก่ผักกาดเขียวปลี คือโบรอน ซึ่งอาจทําในรูปของโบแรกซ์ อัตราประมาณ 2-4 กก./ไร่ หรือละลายฉีดพ่นใบ อัตราส่วน 40 กก./น้ำ 20 ลิตร ฉีดให้ทั่วทุกต้นระหว่างการเจริญเติบโต
  2. การให้นํ้า ผักกาดเขียวปลีต้องการนํ้าบ่อยครั้งและสม่ำเสมอในระยะกล้าและปริมาณมากขึ้นในช่วงการเจริญเติบโต แต่ต้องการน้อยลงเมื่อ ต้นเข้าระยะห่อปลี
  3. การพรวนดินกําจัดวัชพืช ควรทําพร้อมกับการถอนแยกในระยะแรก

การเก็บเกี่ยว

อายุการเก็บเกี่ยวของผักกาดเขียวปลีตั้งแต่วันหยอดเมล็ดถึงวันเก็บเกี่ยว ประมาณ 55-75 วันเลือกตัดหัวที่เข้าปลีแน่นได้ขนาดที่ต้องการโดยใช้มีดสะอาดตัดทีเดียวให้ขาด เก็บใส่ภาชนะรีบนําเข้าร่มเพื่อ รอการขนส่งต่อไป

ข้อควรคำนึกก่อนการปลูก

  1. ควรมีแหล่งจําหน่ายผลผลิตที่แน่นอน
  2. ควรมีการขนส่งที่ดี การคมนาคมสะดวกและมีประสิทธิภาพ การขนส่งสูงซึ่งจะทําให้ธุรกิจมีความคล่องตัว
  3. ควรมีการตกลงกําหนดมาตรฐานคุณภาพและราคาของผักกาดเขียวปลี ระหว่างเกษตรกรและโรงงาน
  4. ควรผลิตเป็นกลุ่มเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของทางราชการและโรงงานช่วยแก้ปัญหาการผลิตและรับซื้อได้สะดวก

ราคาขาย

ราคาขายตลาดสี่มุมเมือง ณ วันที่ 6 มีนาคม 2565

  • ผักกาดเขียวปลี (ใหญ่สวย) ราคากิโลกรัมละ 7 บาท / ผักกาดเขียวปลี (เล็กสวย)  ราคากิโลกรัมละ 6 บาท

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ :
http://www.eto.ku.ac.th
https://www.simummuangmarket.com
https://www.flickr.com

One Comment

Add a Comment