บ๊วย
ชื่ออื่นๆ : บ๊วย, ลูกบ๊วย
ต้นกำเนิด : ประเทศจีน
ชื่อสามัญ : Chinese plum, Japanese apricot, Mume
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Prunus mume
ชื่อวงศ์ : Rosaceae
ลักษณะของบ๊วย
บ๊วยเป็นไม้ผลเมืองหนาวที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศจีน มีปลูกในประเทศไทยนานแล้ว โดยแพร่เข้ามาทางภาคเหนือ บ๊วยเป็นพืชที่จัดอยู่ในสกุลเดียวกับท้อ พลับ หรือลูกพรุน ลักษณะผลกลมเมื่อยังเล็กมีสีเขียว แต่มีผลแก่เต็มที่จะมีสีเหลืองมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2.5 เซนติเมตร รสขมอมเปรี้ยวและมีกลิ่นหอม ในญี่ปุ่นและไต้หวันผลจะแก่และเก็บเกี่ยวได้ในเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ในประเทศไทยออกดอกในเดือนธันวาคม ผลบ๊วยจะแก่เก็บเกี่ยวได้ประมาณเมษายน
บ๊วยเป็นไม้ต้นขนาดเล็ก ผลัดใบ ใบรูปไข่ กว้าง 3-4 ซม. ยาว 6-8 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบกลม ขอบใบจักฟันเลื่อย ดอกมีสีขาว กลิ่นหอม ผลเล็ก ทรงกลม เมื่ออ่อน ผลสีเขียว เมื่อสุกสีเหลิอง เนื้อนิ่ม รสเปรี้ยวอมหวาน เมล็ดแข็ง
การขยายพันธุ์ของบ๊วย
การเสียบกิ่ง หรือ วิธีการปักชำ
ธาตุอาหารหลักที่บ๊วยต้องการ
ประโยชน์ของบ๊วย
- ผลสุกช่วยเพิ่มกําลัง บรรเทาอาการอ่อนเพลีย ลดการกระหายน้ำ ลดการสูญเสียเหงื่อ ช่วยในระบบขับถ่าย
- ช่วยแก้เหงือกอักเสบที่เป็นปัญหาของกลิ่นปาก
- ช่วยปรับสมดุลในกระเพาะอาหารให้มีความมั่งคงแข็งแรง
สรรพคุณทางยาของบ๊วย
- บ๊วยลดมลพิษความเป็นพิษของเนื้อสัตว์ในกระเพาะที่บูดเน่าเสียก่อนจะถูกขับออกจากร่างกาย ปรับทั้งเป็นยาระบาย และลดกรดในกระเพาะแทน อี-โน-กัลดา-เซลเซอร์
- บรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน
- ขับพยาธิ ป้องกันการติดเชื้อในทางเดินอาหาร
คุณค่าทางโภชนาการของบ๊วย
การแปรรูปของบ๊วย
การแปรรูปเป็นบ๊วยแช่อิ่ม, บ๊วยดอง, บ๊วยเค็ม หรือใช้ทำอาหารเช่น น้ำจิ้มบ๊วย, ซอสบ๊วย, ปลานึ่งบ๊วย เป็นต้น
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9876&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com
3 Comments