รากบัว (Lotus root) นั้นเรียกว่าเป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งของบัวหลวง หรือที่ชาวจีนนิยมเรียกกันว่า หน่อยเก๋า หรือกวงพั้ง เป็นต้น ซึ่งคนไทยเรานิยมนำมารับประทานเป็นอาหารกันทั้งแบบดิบและสุก นอกจากนี้ ยังมีสรรพคุณทางยาสมุนไพรอีกมากมายหลายอย่างเลยทีเดียว โดยรากบัวนั้นจัดว่าเป็นพืชสมุนไพรจีนที่มีฤทธิ์เย็นและรสหวาน
ลักษณะทั่วไปของรากบัว บัวจัดเป็นพืชไม้น้ำที่มีรากหรือเหง้าสีขาวอมเหลืองหรือสีงาช้างอยู่ใต้ดินเป็นปล้องๆ ยาวและใหญ่ โดยมีกลิ่นหอมอ่อนๆ และแข็งเล็กน้อย ซึ่งหากนำรากบัวมาตัดตามแนวขวางจะมีลักษณะเป็นรูกลมกลวงๆ อยู่หลายรูเลยทีเดียว และตามก้านใบจะมีหนามอยู่และยาวชูขึ้นโผล่พ้นเหนือน้ำ จนเมื่อแก่แล้วก็จะกลายเป็นฝักบัวที่มีเมล็ดบัวอยู่ภายใน และรากบัวเมื่อแก่มักนิยมนำมาต้มหรือทำเป็นยาสมุนไพรรับประทาน โดยรากบัวนี้สามารถรับประทานได้ทั้งแบบดิบและสุก ซึ่งมีสรรพคุณทางยาสมุนไพรตามลักษณะการรับประทาน
ประโยชน์และสรรพคุณของรากบัว
- ช่วยบรรเทาอาการร้อนใน และกระหายน้ำ
- ช่วยแก้อาการไอ และขับเสมหะออกจากลำคอ
- ช่วยป้องกันหรือรักษาอาการเลือดกำเดาไหล
- ช่วยบำรุงอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย ได้แก่ หัวใจ, ตับ, ม้าม, ไต หรือกระเพาะอาหาร เป็นต้น
- ช่วยแก้อาการอาเจียนแล้วมีเลือดปนออกมา
- ช่วยรักษาโรคบิด หรืออาการท้องร่วง
- ช่วยในการบำรุงสายตาให้เป็นปกติ และแก้ภาวะตาอักเสบ
- ช่วยบำรุงร่างกายให้มีกำลัง และแก้อาการอ่อนเพลียง่าย
- ช่วยบำรุงระบบสมองให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผ่อนคลายความตึงเครียด
วิธีการนำรากบัวมารับประทาน
- ให้นำรากบัวมาตุ๋นรวมกับน้ำผึ้งจนกระทั่งมีเนื้อข้น แล้วนำมารับประทานจะช่วยแก้อาการขับถ่ายออกมาเป็นเลือด
- ให้นำรากบัวมาหั่นแว่น แล้วต้มดื่มพร้อมกับแห้งและเก๊กฮวย จะช่วยป้องกันและแก้อาการอาเจียนแบบมีเลือดปนออกมา หรือภาวะเลือดออกตามทวารหนัก หรือช่องท้อง เป็นต้น
- ให้นำรากบัวมาคั้นน้ำแล้วนำไปต้มผสมกับผลสาลี่คั้นสด จะช่วยบรรเทาอาการไข้ตัวร้อนและอาการไอ รวมทั้งช่วยขับเสมหะออกจากลำคออีกด้วย
- ให้นำรากบัวสดมาคั้นน้ำ พร้อมผสมน้ำผึ้งลงไปให้มีรสชาติ พร้อมดื่มรับประทานช่วยแก้อาการกระหายน้ำ และทำให้ชุ่มคอ
- ให้นำรากบัวมาต้มผสมกับถั่วเขียวมารับประทานช่วยบำรุงสายตา
- ให้นำไข่ตุ๋นและชวงฉิก, เกลือ และน้ำคั้นจากรากบัว รับประทานเพื่อห้ามเลือด
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : https ://www.alro.go.th
ภาพประกอบ : https://www.flickr.com