แห้ว
ชื่ออื่นๆ : แห้วจีน หรือ แห้วทรงกระเทียม
ต้นกำเนิด : ประเทศจีน
ชื่อสามัญ : Water Chestnut
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eleocharis dulcis
ชื่อวงศ์ : Cyperaceae
ลักษณะของแห้ว
เป็นพืชหลายฤดู เป็นพืชกึ่งพืชน้ำ มีเหง้าใต้ดิน เหง้าสั้นมีไหลยาว หัวกลมแบนเกิดในส่วนปลายไหล สีน้ำตาลหรือสีดำ ขึ้นเป็นกอ ลำต้นแข็งแรง ลำต้นตรง กลม ใบย่อส่วนเหลือเพียงโคนกาบหุ้มไม่มีแผ่นใบ สีน้ำตาลแดงหรือสีม่วง ยาว 15-20 เซนติเมตร ช่อดอกเดี่ยวเป็นช่อเชิงลด ดอกช่อยาว 1.5 -3.0 เซนติเมตร ดอกย่อยเป็นแบบ spike ยาว 2-5 เซนติเมตร มีริ้วประดับเป็นเยื่อบางๆ กลีบดอกคล้ายเส้นด้ายสีขาวหรือสีน้ำตาล ผลเป็นผลแห้งเมล็ดล่อน สีเหลืองมันจนถึงสีน้ำตาล
การขยายพันธุ์ของแห้ว
ไหลหน่อ และเมล็ด ชอบที่ชื้นแฉะ พบในพื้นที่ลุ่มที่รกร้าง หนองน้ำและนาข้าว
ธาตุอาหารหลักที่แห้วต้องการ
ประโยชน์ของแห้ว
นำมารับประทานเป็นของหวาน หัวขนาดใหญ่นิยมรับประทานสด หัวขนาดเล็กใช้ผลิตแป้ง ในฟิลิปปินส์ใช้ทำข้าวเกรียบ
ลำต้นใช้สานเสื่อหรือเป็นอาหารสัตว์
สรรพคุณทางยาของแห้ว
นำแห้วสดมาทุบให้ได้ปริมาณ 40 กรัม แล้วนำไปต้มน้ำดื่ม หรือกินแห้วสด เพื่อรักษาอาการดีซ่าน แก้ร้อนใน ตาแดง แก้อาการขัดเบาและเจ็บคอ
ใช้แห้วพอประมาณต้มกับน้ำให้เดือด ผสมเหล้า 2 ช้อนชา ดื่มขณะอุ่นๆ รักษาอาการเลือดออกทวารหนักและริดสีดวงทวาร
คุณค่าทางโภชนาการของแห้ว
การแปรรูปของแห้ว
ทำแห้วกระป๋อง ข้าวเกรียบแห้ว
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9965&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com
One Comment