โรคใบจุดนูน โรคราสนิม โรคที่สำคัญของถั่วเหลือง

โรคที่พบในการปลูกถั่วเหลือง

โรคที่สำคัญที่พบในการปลูกถั่วเหลืองและทำความเสียหายให้แก่ผลผลิตถั่วเหลืองทั้งด้าน ปริมาณและคุณภาพ คือ โรคใบจุดนูนและโรคราสนิมซึ่ง มักจะปรากฏอาการที่ใบของถั่วเหลือง ดังนั้น เกษตรกรควรทราบลักษณะอาการ และวิธีการป้องกันกำจัดอย่างถูกต้องเพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับถั่วเหลืองได้

โรคใบจุดนูน

ลักษณะอาการในระยะแรกจะพบจุดเล็กๆ สีเขียวอ่อนเกิดขึ้นทั้งทางด้านใต้ใบและด้านบนใบ ต่อมาจุดเล็กๆ เหล่านี้จะค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น มีรูปร่างไม่แน่นอน ตรงกลางจะนูนขึ้นเล็กน้อย เนื้อใบบริเวณรอบรอยแผลมักจะมีขอบสีเหลือง และถ้าถั่วเหลืองเป็นโรคนี้รุนแรง ก็จะทําให้ใบร่วง โรคใบจุดนูนจะแพร่ระบาดได้ดีในสภาพที่มีอากาศค่อนข้างร่อน มีฝนตก ลมแรง และ มักจะพบระบาดรุนแรงในถั่วเหลืองพันธุ์ สจ.1,สจ.2, สจ.3, สจ.4 และ สจ.5

โรคใบจุดนูน
โรคใบจุดนูน ด้านใต้ใบและด้านบนใบจะมีจุดนูน

การป้องกันกำจัด

  1. ในแหล่งที่พบการระบาดของโรคนี้เป็นประจําควรปลูกถั่วเหลืองพันธุ์ต้านทานโรคใบจุดนูน ได้แก่ พันธุ์สุโขทัย 1 หรือนครสวรรค์ 1
  2. ควรไถพรวนกลบซากพืชให้ลึก หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว
  3. ไม่ควรปลูกถั่วเหลืองแน่นหรือชิดเกินไป
  4. หากพบการเกิดโรคมาก โดยเฉพาะในระยะออกดอกถึงติดฝักอ่อน ควรฉีดพ่นด้วยสารเคมีป้องกันและกำจัดเชื้อราประเภทสารประกอบทองแดง เช่น คอปเปอร์ออกซี่คลอไรด์ เป็นต้น ตามอัตราส่วนที่กำหนดไว้ในฉลาก

โรคราสนิม

ลักษณะอาการในระยะแรกจะพบจุกเล็ก ๆ สีน้ำตาลเทาใต้ใบ โดยเริ่มจากใบที่อยู่ด้านล่างของลําต้นก่อน ต่อมาจุดนี้จะขยายขึ้นมีลักษณะนูนคล้ายมีผงสีสนิมเหล็ก เมื่อใช้มือลูบที่บริเวณจุดนูนเหล่านี้จะพบผงสปอร์ (ส่วนขยายพันธุ์ของเชื้อรา) สีคล้ายสนิมเหล็กติดมือมา อาการดังกล่าวนี้ นอกจากจะพบด้านใต้ใบแล้ว ยังพบได้ที่ส่วนอื่นๆ เช่น กิ่ง ก้าน ลําต้นและด้านบนใบ แต่จะเห็นได้ชัดที่ด้านใต้ใบถั่วเหลืองที่เป็นโรคนี้อย่างรุนแรงใบจะเหลือง แห้งร่วงก่อนกำหนด ฝักและเมล็ดมีขนาดเล็ก ผลผลิตลดลง

การป้องกันกำจัด

  1. ใช้ถั่วเหลืองพันธุ์ต้านทานต่อโรคราสนิม เช่น พันธุ์เชียงใหม่ 60, สจ.4 และสจ.5
  2. หลีกเลี่ยงการปลูกถั่วเหลืองในช่วงปลายฤดูฝน
  3. ไม่ควรปลูกถั่วเหลืองซ้ำในพื้นที่เดิมตลอดปี
  4. ในช่วงระยะออกดอกและเริ่มมีฝักเล็ก ควรหมั่นตรวจแปลง หากพบอาการของโรคราสนิมและสภาพอากาศเหมาะสมกับการเกิดโรค ควรใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดเชื้อราฉีดพ่น เช่น แมนโคเซ็ป หรือไตรอะดิมีฟอน อย่างใดอย่างหนึ่ง ฉีดพ่นตามอัตราส่วนที่กำหนดไว้ในฉลาก

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ :
http://www.eto.ku.ac.th
https://www.flickr.com

Add a Comment