บอน
บอน ชื่อวิทยาศาสตร์: Colocasia esculenta var. aquatilis Hassk เป็นพืชล้มลุกในวงศ์ Araceae อวบน้ำ มีหัวใต้ดิน ใบรูปไข่แกมรูปหัวใจ ปลายใบแหลมหรือมน โคนใบเว้าลึกรูปสามเหลี่ยม ก้านใบสีเขียวหรือออกม่วง ดอก สีครีมหรือเหลืองนวล ออกเป็นช่อ ดอกตัวผู้อยู่ตอนบน ดอกตัวเมียอยู่ตอนล่าง ก้านช่อสั้นกว่าก้านใบ มีใบประดับสีเหลืองรองรับ ผลสด รูปขอบขนาน เมล็ด ขนาดเล็กจำนวนมาก พบได้ทั่วไปประเทศไทยพบทุกภาค ชอบขึ้นบนดินโคลนหรือบริเวณที่มีน้ำขัง
บอนมีทั้งที่เป็นไม้ประดับและสามารถนำมารับประทานได้

วงศ์บอน
วงศ์บอน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Araceae) เป็นวงศ์ของพืชมีดอกที่เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ที่มีดอกเป็นดอกช่อแบบช่อเชิงลดมีกาบ (spadix) ประกอบด้วยสมาชิก 140 สกุลและประมาณ 4,075 ชนิด ส่วนใหญ่กระจายพันธุ์ในโลกใหม่เขตร้อน บางส่วนอยู่ในเขตร้อนของโลกเก่าและเขตอบอุ่นทางเหนือ ยางของพืชวงศ์นี้มีพิษ
พืชวงศ์บอน ARACEAE เป็นหนึ่งในพืชที่มีบันทึกฟอสซิลที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาพืชดอก โดยฟอสซิสแรกปรากฏขึ้นในช่วงยุคครีเทเชียสตอนต้น ฟอสซิลที่สำคัญจากยุคครีเทเชียสตอนต้น ได้แก่ : Spixiarum kipea, aroid จากบราซิลในสมัย Aptian ตอนปลาย Orontiophyllum ferreri ใบ aroid จากสเปนในสมัย Albian ตอนปลาย และ Turolospadix bogneri ช่อเชิงลดมีกาบ aroid จากสเปนในสมัย Albian ตอนปลาย
พืชในวงศ์บอนได้แก่ บอน บอนสี บอนแบ้ว ใบ้สามสี เดหลีใบกล้วย ทูนก้านดำ ต้นคูน แก้วสารพัดนึก เดหลีใบมัน สาวน้อยประแป้ง มอนสเตอร่า เป็นต้น

ประโยชน์ของบอน
- หัวใต้ดิน รับประทานได้ ใช้เป็นยาระบาย ห้ามเลือด น้ำคั้นจากก้านใบเป็นยานวด แก้ฟกช้ำ ลำต้นบดใช้พอกแผลรวมทั้งแผลจากงูกัด
- ลำต้นใช้ทำอาหาร เช่นแกงบอน ส่วนของบอนที่นำมาแกงคือยอดอ่อน หรือใบอ่อนของบอนที่อยู่ใกล้โคนต้นใช้บอนพันธุ์สีเขียวสด ไม่มีสีขาวเคลือบอยู่ตามก้านและใบ ซึ่งเรียกว่า บอนหวาน ส่วนชนิดที่มีสีซีดกว่า และนวลขาวกว่า เรียกว่า บอนคัน ไม่นิยมนำมาแกง

สามารถติดตามความรู้เเกี่ยวกับการเกษตร เพิ่มเติมได้ที่ เกษตรตำบล.คอม
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : www.th.wikipedia.org, www.hmong.in.th
ภาพประกอบ : www.flickr.com
วงศ์บอน พืชใบเลี้ยงเดี่ยว เป็นทั้งไม้ประดับและบางชนิดสามารถทานได้
บอน มีทั้งบอนที่ใช้เป็นไม้ประดับและบอนที่ใช้ประกอบอาหารรับประทานได้