วิธีการเพาะเห็ดในถุงพลาสติก นิยมแพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว

การเพาะเห็ด

ปัจจุบันการเพาะเห็ดในถุงพลาสติกกำลังเป็นที่นิยมทำกันมากเนื่องจากการเพาะเห็ดในถุง พลาสติกนี้ใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรพวกขี้เลื่อย หรือฟางข้าวผสมอาหารเสริม สามารถทําได้ง่ายเพียงอ่านจากตํารา จากการเข้ารับการฝึกอบรม หรือเรียนรู้จากเพื่อนบ้านดังนั้น การเพาะเห็ดในถุงพลาสติกจึงแพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมหลายพื้นที่ หลายพื้นที่หลายจังหวัดของประเทศ เหตุนี้จึงทําให้มีเห็ดที่เพาะจากถุงจําหน่ายและบริโภคกันทั่วไปและสมํ่าเสมอ เห็ดที่นิยมเพาะในถุงพลาสติกส่วนมากได้แก่ เห็ดสกุลนางรม (เช่น เห็ดนางฟ้า เห็ดนางรม เห็ดภูฏาน เห็ดเป๋าฮื้อเห็ดนางนวล และเห็ดนางนวล และเห็ดนางรมฮังการี เป็นต้น) เห็ดหูหนู เห็ดหอม เห็ดตีนแรด เห็ดยานางิ เป็นต้น เห็ดเหล่านี้สามารถเพาะได้บนวัสดุหลายชนิด โดยเฉพาะขี้เลื่อย หรืออาหารหมักจากฟาง

เห็ดนางฟ้า
เห็ดนางฟ้า ก้านเห็ดสีขาว ดอกเห็ดสีน้ำตาล

วัสดุอุปกรณ์

  1. อาหารเพาะ
  2. หัวเชื้อเห็ด
  3. ถุงพลาสติกทนร่อนขนาด 7×11 นิ้ว , 9×13 นิ้ว
  4. คอพลาสติกขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-1.5 นิ้ว 
  5. ฝ้ายหรือสําสี
  6. ยางรัด
  7. ถังนึ่งไม้อัดความดัน หรือหม้อนึ่ง ความดัน
  8. โรงเรียนหรือสถานที่บ่มเส้นใย และเปิดดอก

การเตรียมอาหารเพาะ

มีหลายสูตร ดังนี้

สูตร 1

  • ขี้เลื่อยแห้ง   100   กิโลกรัม
  • รําละเอียด     3-5   กิโลกรัม
  • ดีเกลือ            0.2   กิโลกรัม
  • ปูนขาว  (CaCo3)
  • (หรือเติมนํ้าตาลทราย 2-3 กิโลกรัม)

ผสมนํ้าให้มี ความชื้น 60-70 เปอร์เซ็นต์ คลุกผสมให้ทั่วแล้วนําบรรจุถุงทันที

สูตร 2

  • ขี้เลื่อยไม้เบญพรรณ     100   กิโลกรัม
  • แอมโมเนียมซัลเฟต          1   กิโลกรัม
  • ปูนขาว                                 1  กิโลกรัม
  • หมักกับนํานานประมาณ  2-3  เดือน
  • ผสมรําละเอียด                    3  กิโลกรัม
  • (หรือเพิ่มน้ำตาลทราย 2 กิโลกรัม)
  • ปรับความชื้น 60-70 เปอร์เซ็นต์
การใช้ขี้เลื่อย
การใช้ขี้เลื่อยมาคลุกน้ำ ทำเป็นส่วนผสมในการเพาะเห็ด

สูตร 3

  • ฟางสับ (4-6 นิ้ว )              100   กิโลกรัม
  • มูลวัว 25 กิโลกรัม ยูเรีย       1   กิโลกรัม
  • รําละเอียด                              5   กิโลกรัม

น้ำหมักฟาง มูลวัว ยูเรีย และนำกองเป็นรูปสามเหลี่ยมเป็นเวลาประมาณ 15 วัน โดยกลับกองทุกๆ 3-4 วัน นํามาผสมรําละเอียดคลุกให้ทั่วปรับความชื้น ในกองปุ๋ย ประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ หมักไว้ 1 คืน จึงสามารถนําไปใช้ได้

สูตร 4

  • ฟางสับ (4-6 นิว้ )      100    กิโลกรัม
  • ยูเรีย                                1    กิโลกรัม
  • แอมโมเนียมซัลเฟต     2   กิโลกรัม
  • หินปูน (CaCO3)         1-3   กิโลกรัม หรือปูนขาว (CaO)
  • ยิปซั่ม (CaSO4.7H2O) 2   กิโลกรัม
  • ดิบเบิ้ลซุปเปอร์ฟอสเฟต   3   กิโลกรัม

น้ำหมักฟางกับนําประมาณ 2 วัน ผสมยูเรียหมักต่อ 2-3 วัน ใส่แอมโมเนียซัลเฟต หมัก ต่อ 2-3 วัน ใส่แอมโมเนียซัลเฟต หมักต่อ 2-3 วัน กลับกอง หมักอีก 2-3 วัน ซุปเปอร์ฟอสเฟต หมัก 2-3 วัน นําไปใช้ได้ (ทุกครั้งที่มีการเติมปุ๋ยควรคลุกให้ทั่ว) โดยให้ปุ๋ยหมักมีความชื้น 60-70 เปอร์เซ็นต์

สูตร 5

  • ฟางสับ (2-3 นื้ว)    100    กิโลกรัม
  • หินปูน (CaCO3)         2    กิโลกรัม
  • รําละเอียด               5-8    กิโลกรัม

ผสมนํ้าให้มีความชื้น 60-70 เปอร์เซ็นต์หมักส่วนผสมไว้นาน 8-10 วัน โดยกลับกองทุก 2 วัน

การใช้ฟาง
การใช้ฟางในการเพาะเห็ด

สูตร 6

ฟางหรือเปลือกถั่วเขียว หรือเศษต้นถั่วเหลืองที่ใช้เพาะเห็นฟาง

หมายเหตุ

  1. การทําปุ๋ยหมักควรทํากองปุ๋ยให้สูงไม่น้อยกว่า 100 เซนติเมตร 
  2. อาหารหมักที่นาไปใช้เพาะเห็ดต้องไม่มีกลิ่นแอมโมเนีย เหลืออยู่ เห็ดสกุลนางรม และเห็ดตีนแรดใช้เพาะได้ดี ทั้งจากขี้เลื่อยและฟางหมัก โดยปรับความชื้นในอาหารเพาะ 60-70 เปอร์เซ็นต์

เห็ดหูหนู และเห็ดย่านาง ใช้อาหารเพาะจากขี้เลื่อยให้ผลผลิตดี โดยปรับความชื้นในอาหารเพาะ 60-70 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ยังมีวัสดุอีกหลายชนิดที่สามารถนํามาใช้เพาะเห็ดสกุลนางรม นางฟ้าได้ดี เช่น ชานอ้อย ซังข้าวโพด ขุยมะพร้าว

วิธีการเพาะ

  1. บรรจุอาหารเพาะลงในถุงพลาสติกทนร่อน กดให้แน่นตึง สูงประมาณ 2/3 ของถุง 
  2. รวบปากถุง บีบอากาศออก สวมคอพลาสติก แล้วพับปากถุงพาดลงมารัดยางให้แน่น อุดด้วยสําลี หุ้มด้วยกระดาษ หรือฝาครอบพลาสติก
  3. นําไปนึ่งฆ่าเชื้อด้วยถังนึ่งไม่อัดความดัน หรือใช้หม้อนึ่งความดันอุณหภูมิ 90-100 0 ซ. เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง ทิ้งไว้ให้ถุงเย็น
  4. นําถุงวัสดุออกมาใส่เชื้อ จากหัวเชื้อที่เลี้ยงในเมล็ดข้าวฟ่าง ประมาณ 10-15 เมล็ด ก็เพียงพอ โดยเขย่าเมล็ดข้าวฟ่างให้กระจายออก เปิดและปิดจุกสําลีโดยเร็ว โดยปฏิบัติในห้องที่สะอาดมิดชิดไม่มีลมโกรก 5. นําไปวางในที่สำหรับบ่มเส้นใยมีอุณหภูมิตามที่เห็ดแต่ละชนิดต้องการไม่จำเป็นต้องมีแสงไม่ต้องให้นํ้าที่ก้อนเชื้อ จนเส้นใยเห็ดเริ่ม รวมตัวกันเพื่อเจริญเป็นดอกเห็ด นําไปเปิดถุงให้ออกดอกต่อไป
การเพาะเห็ด
การเพาะเห็ด นำเชื้อเห็ดใส่ในถุง กดให้แน่น
เห็ดเริ่มงอก
เห็ดเริ่มออกจากถุงที่เพาะ

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ :
http://www.eto.ku.ac.th
https://www.flickr.com
http://chan.nfe.go.th

One Comment

Add a Comment