เปปิโน เมล่อน เปลือกผลเหนียว ต้องปอกเปลือกก่อน

เปปิโน

ชื่ออื่นๆ : เปปิโน (pepino, melon pear) แคนตาลูปต้น

ต้นกำเนิด : อเมริกาใต้

ชื่อสามัญ : Pepino Melon

ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Solanum muricatum

ชื่อวงศ์ :  Solanaceae

ลักษณะของเปปิโน 

ต้น  ไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 1-2 เมตร

ต้นเปปิโน เมล่อน
ต้นเปปิโน เมล่อน ต้นเป็นพุ่ม

ใบ  สีเขียวเข้มผิวใบมันวาว ใบยาวคล้ายกับต้นพริก แต่มีขนาดใหญ่กว่า

ใบเปปิโน เมล่อน
ใบเปปิโน เมล่อน สีเขียวเข้มผิวใบมันวาว

ดอก  ดอกเปปิโนเมลอนคล้ายดอกมะเขือ ดอกมี 5 กลีบ ออกเป็นกลุ่ม 10-15 ดอก เกสรสีเหลือง 1 อันอยู่ตรงกลาง ดอกมีขนาดเล็กสีขาวอมม่วง

ดอกเปปิโน เมล่อน
ดอกเปปิโน เมล่อน ดอกมีขนาดเล็กสีขาวอมม่วง

ผล  ผลทรงรียาวประมาณ 2-4 นิ้ว เปลี่อกผิวเรียบ เมื่อสุกจะเปลี่ยนจากสีเขียวอ่อนเป็นสีเหลืองซีดมีลายริ้วสีม่วง เนื้อสีขาวไปจนถึงเหลืองซีด และมีรสหวานเล็กน้อย ผลมีกลิ่นหอม เนื้อฉ่ำน้ำ เนื้อผลคล้ายแตงเมล่อน มีความกรอบ เนื้อสุกมีสีเหลืองทอง ไม่นิยมกินเปลือกเพราะค่อนข้างเหนียว เป็นผลไม้ที่ต้องปอกเปลือกก่อน รสชาติคล้ายกล้วยผสมกับลูกแพร์ จนได้รับการขนานนามว่า “ผลไม้พระเจ้า”

ผลเปปิโน เมล่อน สีม่วง
ผลเปปิโน เมล่อน สีม่วงอ่อน ลายม่วงเข้ม
ผลเปปิโน เมล่อน สีเหลือง
ผลเปปิโน เมล่อน สีเหลือง ลายสีม่วง

เมล็ด  เมล็ดเล็ก มีจำนวนมาก

เนื้อผลเปปิโน เมล่อน
เนื้อผลเปปิโน เมล่อน เนื้อสุกมีสีเหลืองทอง มีรสหวานเล็กน้อย มีเมล็ด

การขยายพันธุ์ของเปปิโน 

การเพาะเมล็ด, การปักชำกิ่ง

วิธีเพาะเมล็ด

  1. นำเมล็ดไปล้างกับน้ำอุ่น เนื่องจากเมล็ดเปปิโนจะมีเมือกติดอยู่
  2. เตรียมภาชนะที่มีฝาปิด
  3. จากนั้นนำกระดาษชำระมาพรมน้ำให้ชุ่มแล้ววางลงไปในภาชนะ
  4. แล้วนำเมล็ดเปปิโนลงไปวางบนกระดาษชำระ จากนั้นนำกระดาษชำระพรมน้ำให้ชุ่มวางทับเมล็ดเปปิโนอีกครั้ง
  5. ปิดฝาภาชนะ ทิ้งไว้ประมาณ 5 วัน

การปลูก (หลังเพาะเมล็ด)

นำเมล็ดที่เพาะแล้วมาปลูกลงดิน โดยใช้ดินหมัก เนื้อดินละเอียด รดน้ำดินให้ชุ่ม ก่อนนำเมล็ดที่เพาะลงไปปลูก โดยทำการใช้ไม้จิ้มเมล็ดหรือใช้ที่คีบเมล็ด เพื่อนำเมล็ดลงปลูก  แล้วกดเมล็ดลงดิน รดน้ำวันละ 1 ครั้ง ปลูกไว้ในที่ร่ม แดดรำไร ประมาณ 15 วัน เมล็ดก็จะเริ่มงอก

สามารถปลูกในกระถางได้ ใช้ระยะเวลาในการปลูก 4 เดือน

มีหลายสายพันธุ์ ทั้งสีม่วง สีขาว สีเหลือง

วิธีปลูกเปปิโน (ใช้ต้น)

วิธีการขึ้นแปลง ความห่างระหว่างแปลง 1×1 เมตร จากนั้นขุดหลุมเพาะปลูก ความห่างระหว่างต้น 30×30 เมตร รองพื้นก้นหลุมก่อนปลูก ใช้ปุ๋ย สูตร 16-20-0 (ปริมาณ 1 กำมือ ต่อ 5 หลุม) กลบปุ๋ยก่อนนำต้นกล้าลงปลูก หลังจากปลูกรอต้นแข็งแรงและรากเดิน ให้ใส่ปุ๋ย สูตร 13-13-21, 15-15-15 (ปริมาณ 1 กำมือ ต่อ 2-4 ต้น) เพื่อเร่งต้น ดอกและผล

การรดน้ำ ควรรดน้ำสม่ำเสมอ ทุกๆ 3-4 วัน หรืองดน้ำก่อนเก็บผลผลิตต่อครั้ง อย่างน้อย 3 วัน

เมื่อลงแปลงปลูกประมาณ 2 เดือนครึ่ง ก็จะออกผลผลิตแล้ว ในส่วนของการฉีดพ่น ทางสวนจะฉีดพ่นเพียงเพื่อป้องกันเเมลง เช่น เพลี้ยไฟ ไรเเดง หนอนเจาะผล เมื่อต้นเปปิโน เมล่อน ออกผลแล้วจำเป็นต้องรีบห่อผลเพื่อป้องกันเเมลงเจาะผล แต่หากปลูกระบบปิด ไม่จำเป็นต้องห่อผล

เริ่มให้ผลผลิตและให้ผลิตตลอดทั้งปี แต่ในช่วงเดือนเมษายน-กันยายน ด้วยสภาพอากาศที่อาจไม่เหมาะกับต้นเปปิโน เมล่อน อาจะให้ผลผลิตที่ได้น้อยกว่าปกติ ทางสวนจะทำการหยุดจำหน่ายในช่วงเวลานี้ และจะกลับมาดูแลให้ออกผลในช่วงปลายเดือนกันยายน

ธาตุอาหารหลักที่เปปิโนต้องการ

เมล็ดเปปิโน จะไม่ชอบดินที่แฉะ ชอบดินระบายน้ำดี ชอบอากาศเย็น ชอบแดด

สามารถปลูกและเติบโตได้ดีในพื้นที่โซนภาคเหนือของประเทศไทย เป็นไม้ที่ชื่นชอบแสงแดด แต่ก็ต้องเป็นแดดที่ไม่แรงจนเกินไป

ประโยชน์ของเปปิโน

  • นิยมนำมาทำเป็นสลัด ทำน้ำผลไม้ หรือทานสดๆ

สรรพคุณของเปปิโน

  • ต่อต้านริ้วรอย ต้านมะเร็ง ลดน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต แก้เบาหวาน บำรุงหัวใจ ช่วยลดน้ำหนัก ปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน  และป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดสมอง เป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับการรักษาสุขภาพ
  • มีวิตามิน A, B, C, K ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันหวัด เหน็บชา และบำรุงเลือด
  • มีไฟเบอร์ ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ
  • มีแคลเซียม ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน
  • มีโปรตีน ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
  • มีเบต้าแคโรทีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
  • เป็นแหล่งผลิตสารต้านอนุมูลอิสระทั้งในผลดิบและผลสุก ซึ่งประกอบด้วยวิตามินซี วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน ฟลาโวนอยด์ ฟีนอลสูงกว่า และยังมีไฟเบอร์ในเปปิโนเมลอนช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

คุณค่าทางโภชนาการของเปปิโน

คุณค่าทางโภชนาการของเปปิโนเมล่อนต่อปริมาณ 100 กรัม (ทั้งผลสุก – ผลดิบ) ให้พลังงาน 30 กิโลแคลอรี

  • เส้นใยอาหาร    1 กรัม
  • โซเดียม    15 มิลลิกรัม
  • คาร์โบไฮเดรต    7 กรัม
  • โปรตีน    1 กรัม
  • ไขมันทั้งหมด    0 กรัม
  • น้ำตาล    6 กรัม
  • แคลเซียม    3 มิลลิกรัม
  • เหล็ก    2 มิลลิกรัม

การแปรรูปเปปิโน

เปปิโนเหมาะกับการหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ในน้ำหวานและน้ำแข็งทำเป็นขนมหวานเย็นรับประทานดับร้อน หรือเอามาปั่นเป็นเครื่องดื่มที่ให้น้ำมากกว่าแตงกวาแต่น้อยกว่าแตงโม หรือเอามารับประทานกับผักสลัด หรือทำน้ำผลไม้สกัดเย็น

สามารถติดตามความรู้เเกี่ยวกับการเกษตร เพิ่มเติมได้ที่ เกษตรตำบล.คอม

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : www.youtube.com, www.kasetgo.com, www.technologychaoban.com, www.amprohealth.com
ภาพประกอบ : www.flickr.com

3 Comments

Add a Comment