หัวปลี สารอาหาร ประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการ

หัวปลี

หัวปลี ภาษาอังกฤษเรียก Banana blossom หรือ Banana flower เพราะหัวปลีเป็นส่วนดอกของต้นกล้วยนั่นเองค่ะ ส่วนในบ้านเราเรียกกันทั้งหัวปลี ปี๋ (เหนือ) และปลีกล้วย แล้วแต่ความถนัดและความเคยชินของท้องถิ่นต่างๆ 

หัวปลีมีรูปทรงคล้ายหยดน้ำ โคนปลีกว้าง ปลายปลีแหลม หัวปลีเป็นส่วนดอกของต้นกล้วยที่ทำหน้าที่ห่อหุ้มกล้วยหลาย ๆ ผลรวมกัน หัวปลีจะผลิกล้วยออกมาหลายหวีจนกระทั่งไม่คายกาบออกมาเป็นกล้วยแล้ว ซึ่งคราวนี้ก็จะเหลือแต่หัวปลีที่มีเนื้อสีขาวภายใน หรือที่เรียกกันว่าปลีกล้วยนั่นเองค่ะ แล้วภายในหัวปลี มีสารอาหารอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ

ปลีกล้วย
ปลีกล้วย เป็นส่วนช่อดอกของต้นกล้วย

คุณค่าทางโภชนาการของปลีกล้วย

หัวปลีในปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 28 กิโลแคลอรี ประกอบไปด้วย

  • น้ำ 92.3 กรัม
  • โปรตีน 1.4 กรัม
  •  ไขมัน 0.2 กรัม
  •  คาร์โบไฮเดรต 5.2 กรัม
  •  กากใยอาหาร 0.8 กรัม
  •  เถ้า 0.9 กรัม
  • แคลเซียม 28 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 40 มิลลิกรัม
  • ธาตุเหล็ก 0.7 มิลลิกรัม
  • วิตามินเอ 26 ไมโครกรัม
  • ไทอะมีน 0.01 มิลลิกรัม
  • ไรโบฟลาวิน 0.02 มิลลิกรัม
  • ไนอะซิน 0.6 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี 25 มิลลิกรัม
หัวปลี
หัวปลี ในหัวปลีจะมีช่อดอกย่อยอยู่
ด้านในหัวปลี
ด้านในหัวปลีจะมีสีขาว เมื่อแกะเปลือกที่หุ้มอยู่ออก

ประโยชน์ของหัวปลี มีดีตรงไหน ?

  1. บำรุงเลือด
    หัวปลีมีธาตุเหล็กสูง ช่วยบำรุงเลือด ป้องกันโลหิตจาง โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์หรือคุณแม่หลังคลอดบุตร
  2. ขับน้ำนม
    ด้วยสรรพคุณหัวปลีที่ช่วยบำรุงเลือด ทำให้หัวปลีมีประโยชน์ในการช่วยขับน้ำนมของหญิงหลังคลอดบุตร โดยให้รับประทานเมนูหัวปลีหลังคลอดใหม่ ๆ จะช่วยขับน้ำนมได้ดีมาก
  3. ลดระดับน้ำตาลในเลือด
    การศึกษาในวารสาร Phytoterapy Research เมื่อปี 2000 เผยผลการวิจัยฤทธิ์ของหัวปลีกับการลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยทดลองให้หนูกินหัวปลี 0.15-0.25 กรัมต่อน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) ตลอดระยะเวลา 30 วัน ซึ่งพบว่า ระดับน้ำตาลในเลือดของหนูลดลง และมีระดับฮีโมโกลบินเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การทดลองนี้ยังอยู่ในขอบเขตของสัตว์ทดลองเท่านั้น ส่วนการทดลองในคนยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
  4. ลดการอักเสบในร่างกาย
    ในหัวปลีมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า มีทานอล ซึ่งงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Food Science and Biotechnology เมื่อปี 2010 พบว่า สารสกัดจากหัวปลีมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ค่อนข้างมาก และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันเซลล์ถูกทำลาย ป้องกันการอักเสบในร่างกายได้
  5. ประจำเดือนมามาก หัวปลีช่วยได้
    แมัห้วปลีจะมีสรรพคุณบำรุงเลือด แต่สำหรับสาว ๆ ที่ประจำเดือนมามากเกินไป (ต้องใช้ผ้าอนามัยเกิน 5 ชิ้นต่อวัน) หัวปลีจะช่วยลดปริมาณเลือดประจำเดือนให้ได้ค่ะ โดยหัวปลีมีสรรพคุณกระตุ้นร่างกายให้สร้างฮอร์โมนโปรเจสเทอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย ช่วยให้ปริมาณเลือดประจำเดือนที่มามาก มาเกินความจำเป็นลดน้อยลงไปได้
  6. ช่วยต้านเศร้า
    หัวปลีมีแมกนีเซียม ธาตุอาหารสำคัญที่มีผลรักษาอาการซึมเศร้า ดังนั้นใครรู้สึกไม่ค่อยดี เหมือนซึม ๆ เศร้า ๆ ลองรับประทานหัวปลีสักเมนูสิคะ
  7. รักษาโรคกระเพาะ
    ยางจากหัวปลีมีฤทธิ์สมานแผลในกระเพาะอาหาร โดยวิธีใช้ให้นำหัวปลีมาเผาแล้วคั้นเอาแต่น้ำมาดื่มให้ได้ประมาณครึ่งแก้ว ใช้เป็นยาเคลือบกระเพาะก่อนรับประทานอาหารประมาณ 1 ชั่วโมง สูตรนี้เป็นยาโบราณเลยล่ะค่ะ
หัวปลี
หัวปลี จะมีสีม่วงเข้ม ออกตรงปลายหวีกล้วย

ข้อควรระวังในการกินหัวปลี

หัวปลีเป็นสมุนไพรที่มีแป้งซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลทีหลัง ดังนั้นคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ก็พยายามอย่ากินหัวปลีเยอะจนเกินไป เพราะอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้นะคะ

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ :
www.mcpswis.mcp.ac.th
www.flickr.com

One Comment

Add a Comment