การเก็บเมล็ดพันธุ์พื้นบ้านไว้ปลูกเอง

การเก็บเมล็ดพันธุ์พื้นบ้าน

เมล็ดพันธุ์พื้นบ้าน คือเมล็ดพันธุ์แท้ที่มีความแข็งแรงทนต่อสภาพอากาศและสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี  รวมถึงทนต่อโรคและแมลง โดยเมล็ดพันธุ์แท้สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์จากต้นที่ปลูกไว้เป็นเชื้อพันธุ์ต่อไป ได้ในทุกรอบการผลิต ในปัจจุบันเมล็ดพันธุ์พื้นบ้านถูกแทนที่และคุกคามจากเมล็ดพันธุ์ลูกผสม  ด้วยเหตุนี้เราจึงควรช่วยกันปลูกเมล็ดพันธุ์พื้นบ้าน เพื่อรักษาเมล็ดพันธุ์ที่เป็นสายพันธุ์แท้จริงต่อไป

เมล็ดพันธุ์
เมล็ดพันธุ์ผักต่างๆ สำหรับใช้ปลูกในครั้งต่อไป

การเก็บเมล็ดพันธุ์ โดยทั่วไปแบ่งเมล็ดพันธุ์ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ

  1. กลุ่มเมล็ดที่อยู่ในฝักแห้ง เช่น พืชประเภทถั่ว ผักกาด ผักคะน้า ผักชี ผักบุ้ง กะหล่ำ ผักสลัด เมื่อต้นโตจะ เป็นพุ่มพอปล่อยไปสักระยะหนึ่งใบจะเริ่มมีขนาดเล็กลง เริ่มมีดอกและจะพัฒนาเป็นฝักเล็กๆ พอต้นเริ่มเหลืองก็ สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ได้เลย แต่ถ้าปล่อยให้แห้งคาต้นโอกาสที่จะแตกและร่วงลงดินมีมาก ดังนั้นช่วงเวลาที่เหมาะสม คือ ต้องตัดในขณะที่ต้นยังเหลือง หลังจากที่ตัดแล้ว นำไปวางบนพลาสติกและผึ่งไว้ในที่ร่ม ประมาณ 3-4 วัน หลังจากนั้นก็เอาฝักออกด้วยการนำไปฝัด แล้วนำเมล็ดที่ได้เก็บรักษาไว้ในถุงพลาสติกหรือขวด
  2. กลุ่มเมล็ดที่เปียกหรือมีความชื้นสูง เช่น พริก มะเขือ ฟักทอง เป็นต้น ปกติเวลาที่เก็บเมล็ดต้องขูดออกเมล็ดออกมา จากนั้นเอาไปล้างในน้ำให้สะอาดและนำไปตากในที่ร่ม นาน 4-5 วัน สามารถเก็บได้
    เมล็ดพริก ถ้าเอามือจับจะเกิดอาการแสบร้อน ดังนั้นการคัดเลือกเมล็ดพริกที่สุกที่สุด นำไปใส่ในเครื่องปั่น ใส่น้ำลงไปให้ท่วม จากนั้นปั่นสามรอบพอให้ผลพริกแตก แต่ระวังไม่ให้เมล็ดพริกแตกละเอียด จากนั้นเทลงในถังเพื่อหมัก ให้เกิดความเน่า ประมาณ 1 สัปดาห์ความเผ็ดของพริกจะหายไป ให้เติมน้ำลงไปในปริมาณมากพอสมควรและเอาไม้ คนไปเรื่อยๆ จากนั้นเทน้ำออก เมล็ดที่ดีจะจมอยู่ด้านล่างถัง เทน้ำล้างประมาณ 3 รอบ ท าให้ได้เมล็ดพริกที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด จากนั้นนำไปตากในที่ร่มประมาณ 4-5 วัน และสามารถนำไปเก็บได้
    ฟักทองและแตงกวา เก็บผลมาจากต้น จากนั้นนำมาทำความสะอาดและตากให้แห้งและน าไปเก็บรักษาได้ วิธีการนี้ทำให้เปอร์เซ็นต์การงอกลดลงเร็วมาก วิธีการที่ควรทำคือเมื่อเก็บมาจากต้นต้องน าไปบ่มก่อนประมาณ 2 สัปดาห์ขึ้นไป เพื่อให้เมล็ดดูดซึมอาหารจากผลให้สมบูรณ์มากที่สุด วิธีการนี้เปอร์เซ็นต์ความงอกสูงมากขึ้น
  3. กลุ่มเมล็ดที่มีเมือก เช่น มะละกอ มะเขือเทศ เสาวรส เมล็ดเหล่านี้จะมีเมือกลักษณะเป็นแผ่นใสๆ หุ้มเมล็ดอยู่ล้างไม่ค่อยออก เมื่อได้รับความชื้นเมือกนี้จะดูดความชื้นเข้าภายในเมล็ดอย่างรวดเร็ว และส่งผลให้เมล็ดงอกได้เร็ว ขึ้นเพราะฉะนั้นวิธีการแก้ไขคือต้องแช่เมล็ดในน้ำนาน 1 เดือน เพื่อเป็นการกำจัดเมือก จากนั้นค่อยล้างทำความสะอาดและนำไปผึ่งลมให้แห้งและจึงเก็บรักษา

โดยทั่วไปเมล็ดพันธุ์พืชสวนมีอายุไม่เกิน 1 ปี ความงอกจะลดลงหรือไม่งอก ในกรณีที่ต้องการเก็บรักษานาน กว่า 1 ปี ให้เก็บรักษาภายในตู้เย็นอยู่ได้นาน 10 ปี เพราะฉะนั้นการเก็บเมล็ดพันธุ์จึงไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไป

เมล็ดพันธุ์
เมล็ดพันธุ์ฟักทอง เมล็ดพันธุ์ทานตะวัน

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ :

www.flickr.com

2 Comments

Add a Comment