กล้วยน้ำว้า 1 ลูกหนักเท่าไหร่ ให้พลังงานเท่าไหร่

กล้วยน้ำว้าเป็นกล้วยที่ทุกคนก็คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี  และเคยรับประทานกันมาแล้ว  กล้วยน้ำว้าเป็นกล้วยที่มีอยู่คู่กับคนไทยมานานตั้งแต่โบราณ  กระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ  จึงมีชื่อเรียกตามแต่ละท้องถิ่นมากมาย  เช่น  กล้วยนาก  กล้วยหอมจันทร์  กล้วยมะลิอ่อง  เป็นต้น  กล้วยน้ำว้ามีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  เมื่อหลายพันปีมาแล้ว  และแพร่พันธุ์กันมาเรื่อย ๆ  จนกระทั่งปัจจุบันเป็นกล้วยที่ปลูกกันตามบ้านทั่ว ๆ ไป

ผลของกล้วยน้ำว้าขณะที่ยังดิบอยู่เนื้อกล้วยจะแข็งมีรสฝาด  เนื้อมีสีขาว  ยังไม่มีกลิ่นหอมของกล้วย  เปลือกของผลดิบแข็ง  มีสีเขียวเข้ม  ปอกยาก  แต่เมื่อตัดจากลำต้นแล้วประมาณ 10 วัน เปลือกจะมีสีเหลืองตลอดลูก  ตกกระเป็นจุด ๆ มีกลิ่นหอมชวนรับประทาน  มีรสหวาน เปลือกปอกได้ง่าย  ผลกล้วยสุกเรานำมาทำอาหารได้กลายอย่าง  เช่น  กล้วยเชื่อม  กล้วยตาก  กล้วยบวชชี  กล้วยแขก  กล้วยปิ้ง  รับประทานเป็นยาระบายอ่อน ๆ เป็นอาหารเสริมสำหรับทารกอีกด้วย

คุณค่าทางโภชนาการของกล้วยน้ำว้าสุก

กล้วยน้ำว้าสุก 100 กรัม  ให้พลังงาน 122  กิโลแคลอรี  มีปริมาณสารอาหารดังนี้

• โปรตีน                          1.2   กรัม
•  คาร์โบไฮเดรต         26.1   กรัม
• ไขมัน                           0.3    กรัม
• วิตามิน เอ                  375    หน่วยสากล
• วิตามิน บี 1                0.03   มิลลิกรัม
• วิตามิน บี 2               0.04    มิลลิกรัม
• ไนอาซิน                       0.6   มิลลิกรัม
• วิตามิน  ซี                   14.0   มิลลิกรัม
•  แคลเซียม                  12.0   มิลลิกรัม
• ฟอสฟอรัส                 32.0    มิลลิกรัม
• เหล็ก                           0.8     มิลลิกรัม
• น้ำ                                7.6    กรัม

สรรพคุณของกล้วยน้ำว้า

• ในผลดิบนั้นใช้รักษาอาการท้องเดิน-ท้องเสีย โดยใช้ประโยชน์จากสารแทนนินที่มีอยู่ในผลดิบของกล้วยน้ำว้า วิธีบริโภค  โดยให้กินทั้งเปลือก หรือหั่นเป็นแว่นๆ แล้วนำไปตากแห้ง นำมาบดชงผสมกับน้ำร้อน หรือบดแล้วปั้นเป็นเม็ดกินก็ได้ และผลดิบของกล้วยน้ำว้าสามารถรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย โดยใช้กล้วยน้ำว้าดิบนำมาปอกเปลือก ฝานเอาแต่เนื้อเป็นแผ่นบางๆ ตากแดดจนแห้งกรอบแล้วบดเป็นผงละเอียด ละลายกินกับน้ำข้าวหรือน้ำผึ้งก็ได้ ซึ่งในกล้วยดิบจะกระตุ้นเซลล์เยื่อบุในกระเพาะอาหารให้หลั่งสารมิวซินออกมาเคลือบกระเพาะ ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้
• ส่วนในกล้วยน้ำว้าสุก สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ หรือเจ็บหน้าอกจากการไอแห้งๆ ลดการระคายเคืองในลำคอจากอาการไอ กล้วยน้ำว้าสุกช่วยระงับกลิ่นปากได้ โดยหลังจากตื่นนอนแล้วให้กินกล้วยน้ำว้าทันที แล้วค่อยแปรงฟัน
• เปลือกกล้วยน้ำว้า ยังมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียที่จะทำให้เกิดหนอง และยังช่วยบรรเทาอาการคันเนื่องจากแมลงกัดต่อยได้ด้วย  ประโยชน์มากขนาดนี้ ทาน วันละ ลูก สองลูก คงทำให้สุขภาพดีทีเดียว
• กล้วยน้ำว้ายังช่วยควบคุมน้ำหนักควบคุมเบาหวาน เเละป้องกันความดันโลหิตสูงการกินกล้วยน้ำว้าเป็นประจำจะทำให้ครายเครียดเเละลดอาการซึมเศร้า เพราะกล้วยสุกมีกรดอะมิโนทริปโทเฟน ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย มีอารมณ์ผ่องใส เเละมีความสุข

นอกจากนี้ กล้วยน้ำว้ายังมีสารเเทนนินที่เเก้ท้องเสียได้ เรื่องกล้วยยังไม่หมดเท่านี้ เพราะอีกสิ่งที่ขาดไม่ถึงคือ กล้วยน้ำว้าดับกลิ่นปากตอนเช้าได้ โดยกินหลังตื่นนอนทันที สรรพคุณของกล้วยนั้นมากมาย ใครไม่ชอบกินกล้วยควรทบทวนใหม่เเล้วคุณจะรู้ว่า”กล้วยน้ำว้า” ไม่ใช่เเค่เรื่องกล้วยๆ อีกต่อไป

สามารถติดตามความรู้เเกี่ยวกับเรื่องกล้วย การปลูกกล้วย พันธุ์กล้วย เพิ่มเติมได้ที่ เกษตรตำบล.คอม

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : www.scimath.org, www.multimedia.anamai.moph.go.th, www.takae.go.th
ภาพประกอบ : www.flickr.com